นางทาส ตอนที่ 3

หลังจากที่ท่านเจ้าคุณสีหโยธินได้บุญมีเป็นเมียอีกคนแล้ว อีก 2 - 3 วันต่อมาท่านเจ้าคุณได้บอกกับคุณหญิงแย้มด้วยสีหน้าเกรงใจว่า
"ฉันอยากจะขอแบ่งเวลาจากแม่แย้มไปให้บุญมี 2 วัน"
คุณหญิงนิ่งอึ้งเมื่อได้ท่านเจ้าคุณกล่าวจบ ท่านเจ้าคุณมองหน้าคุณหญิงด้วยความเกรงใจก่อนจะกล่าวต่อเบาๆ
"แม่สาลี่เขามีแค่ 2 วัน"
คุณหญิงแย้มมองหน้าท่านเจ้าคุณแล้วฝืนยิ้มให้ด้วยสีหน้าหม่นเศร้าก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนเบาแต่ติดประชดเล็กๆ
"ค่ะ อิฉันทราบ คุณพี่กรุณาให้อิฉันถึง 5 วัน แบ่งให้แม่บุญมีแค่ 2 วัน เหลืออีก 3 วัน ก็ยังมากกว่าคนอื่นอยู่ดี"
"แม่แย้ม"
"ไม่ต้องห่วงความรู้สึกของอิฉันหรอกค่ะ อิฉันไม่สามารถมีลูกให้คุณพี่ได้เอง แล้วจะโทษใครได้ล่ะคะ"
ท่านเจ้าคุณนิ่งอึ้งไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ในขณะที่คุณหญิงแย้มกล้ำกลืนฝืนเก็บกักน้ำตาไว้ไม่ให้หยาดหยด
เย็นสังเกตเห็นคุณหญิงแย้มเศร้าสร้อยหม่นเศร้าทุกครั้งที่ท่านเจ้าคุณไปหาคุณสาลี่ที่เรือนหลังเล็ก เธอจึงเฝ้าสังเกตดูคุณหญิงแย้มด้วยความสงสารเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันยายฟักก็เพียรพูดจาชักจูงและสั่งสอนให้เย็นกตัญญูรู้คุณคุณหญิงแย้มทุกวันด้วยเจตนาอะไรบางอย่างที่ยายฟักตั้งใจทำให้กับคุณหญิงแย้ม
"เราเป็นบ่าวเขาต้องกตัญญูต่อเจ้านาย ต้องอดทน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราก็ตาม บ่าวที่นี่น่ะโชคดีกว่าที่อื่นหลายเท่านัก ไม่ต้องดูอื่นไกล เอ็งคงเคยเห็นที่บ้านจมื่นวรนารถแล้ว...ยิ่งเจ้านายท่านดีกับเรามากเท่าไหร่ เราก็ต้องกตัญญูกับท่านมากขึ้น เท่านั้น หากมีสิ่งใดที่พอจะตอบแทนได้ เราต้องทำโดยไม่มีข้อแม้"
ยายฟักเพียรสอนเพียรพูดกรอกหูเย็นด้วยคำพูดซ้ำๆ ซากๆ เช่นนี้ทุกวันอย่างมีนัยยะพร้อมกับจับจ้องมองหน้าเย็นด้วยสายตาแปลกๆ แต่เย็นก็มิได้เฉลียวใจ สาวรุ่นนั่งฟังอย่างสงบเสงี่ยมและพยายามจดจำคำพูดของยายฟักไว้เพื่อทำตาม
คุณสาลี่วางแผนที่จะค่อยๆ ดึงตัวท่านเจ้าคุณสีหโยธินให้มาอยู่ที่เรือนหลังเล็กนานๆ อย่างแนบเนียน โดยสั่งให้บุญมีแกล้งทำเป็นอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอาเจียนโอ้กอ้ากอยู่ที่ห้อง จากนั้นนังแอบก็วิ่งหน้าตื่นขึ้นมาบอกคุณสาลี่และท่านเจ้าคุณที่กำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ด้วยกันในตอนเช้าวันหนึ่ง ว่าบุญมีไม่สบาย ท่านเจ้าคุณชะงักหยุดรับประทาน ในขณะที่คุณสาลี่ทำเป็นตกอกตกใจถามนังแอบว่าบุญมีเป็นอะไรไป นังแอบทำหน้าตื่นตอบ
"ไม่ทราบเจ้าค่ะ เห็นอาเจียนโอ้กอ้ากตั้งแต่เช้า"
ท่านเจ้าคุณและคุณสาลี่รีบลุกขึ้นไปดูบุญมีที่ทำเป็นนอนหมดแรงอยู่ในห้อง โดยมีป่วนคอยพัดวีและเอายาดมให้ดมอยู่ และพอเห็นหน้าท่านเจ้าคุณ บุญมีก็แกล้งทำเป็นขยักขย้อนเรียกหากระโถนให้วุ่นวายแล้วโก่งคออาเจียนจนคุณสาลี่ลอบค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ และยิ่งเมื่อท่านเจ้าคุณขยับเข้าไปลูบหน้าลูบหลังให้บุญมี คุณสาลี่ก็ยิ่งหมั่นไส้บุญมีหนักขึ้นไปอีกด้วยเหตุที่ทำสำออยเกินคำสั่ง นังแอบนั้นติดหน้าตามหลังคุณสาลี่อยู่ไม่ห่าง รีบเสนอหน้าบอกท่านเจ้าคุณสีหโยธินว่าอาการของบุญมีนั้นเป็นอาการของคนแพ้ท้องตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ทำให้ท่านเจ้าคุณดีใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งคุณสาลี่ด้วยที่ต้องแกล้งทำเป็นดีอกดีใจไปกับบุญมีและท่านเจ้าคุณไปด้วย
หลังจากที่กลับออกมาจากห้องของบุญมี ท่านเจ้าคุณบอกกับคุณสาลี่ว่าจะให้หมอฝรั่งมาตรวจบุญมีอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คำพูดของท่านเจ้าคุณทำให้คุณสาลี่สะดุ้งเฮือกและรีบปฏิเสธเป็นพัลวันว่าไม่ได้ โดยอ้างว่าบุญมีคงไม่ยอมเพราะเป็นคนขี้อาย พร้อมกันนั้นนังแอบก็เสนอขึ้นว่า
"อิฉันรู้จักหมอตำแยเจ้าค่ะ ให้หมอตำแยมาดูก็ได้"
ในขณะที่ท่านเจ้าคุณนิ่งอึ้งด้วยความลังเล คุณสาลี่ก็รีบพูดตะล่อมทันที
"เราทุกคนก็ล้วนแต่หมอตำแยทำคลอดให้ทั้งนั้น ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรเลย หรือถ้าจะให้ดีคุณพี่ลองถามแม่บุญมีดูก็ได้ค่ะ"
ท่านเจ้าคุณสีหโยธินได้แต่นิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกกับคำปฏิเสธนั้น และหลังจากที่ท่านเจ้าคุณกลับไปยังเรือนใหญ่แล้วนั้น คุณสาลี่ก็เดินเข้าไปบอกบุญมีถึงเรื่องที่ท่านเจ้าคุณจะให้หมอฝรั่งมาตรวจ บุญมีสะดุ้งเฮือกก่อนจะโวยวายออกมา
"อุ๊ยตายแล้ว อย่าให้มานะคะ คุณพี่ ถ้าความลับแตกละก็ อิฉันไม่ยอมตายคนเดียวด้วยแต่จะเปิดโปงให้หมดว่าคุณพี่เป็นคนวางแผน"
คุณสาลี่หน้าตึงขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับตวาดเสียงแหลม "อีบุญมี"
"กรุณาอย่าขึ้นไอ้ขี้อีค่ะ อิฉันไม่ใช่บ่าวของคุณพี่ อิฉันเป็นเมียคนหนึ่งของท่านเจ้าคุณเหมือนกัน"
บุญมีสวนขึ้นด้วยสีหน้ายโสโอหังทำให้คุณสาลี่โกรธจนหน้าเขียว
"อีบุญมี ไม่ทันไรก็อกตัญญูกูแล้ว เอาเลย ไปบอกท่านเจ้าคุณเลย ดูซิว่า ท่านจะเชื่อใคร กูขุนมึงมาได้ กูก็เหยียบมึงให้จมธรณีได้เหมือนกัน หน็อยแน่ อีคางคกขึ้นวอ" คุณสาลี่ด่าเสียงขรมก่อนจะกระแทกเท้าเดินออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง
หลังจากที่คุณสาลี่ออกไปจากห้องแล้ว และระหว่างที่บุญมีนั่งคิดทบทวนว่าจะเอาอย่างไรดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น นังแอบก็คลานเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับบอกบุญมีด้วยน้ำเสียงเนิบๆ
"คุณกำลังทำผิดพลาด"
บุญมีหน้าตึงขึ้นพร้อมกับตวาดกลับ "นายมึงนั่นแหละทำผิดพลาด เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับกู คอยดูนะ กูจะฟ้องท่านเจ้าคุณให้หมด"
นังแอบหัวเราะออกมาอย่างเยาะๆ ทำให้บุญมียิ่งฉุนมากยิ่งขึ้น และตวาดซ้ำ
"มึงหัวเราะอะไร อีแอบ"
"หัวเราะว่าใคร้ใครมันจะเป็นพยานให้คุณน่ะซีเจ้าคะ บ่าวเอย นังพิศนังม้วนเอย หรือแม้กระทั่งนังชีป่วน ทุกคนต้องเป็นพยานให้คุณท่านทั้งนั้น มองไปรอบๆ ซิเจ้าคะ คุณน่ะตัวคนเดียวแท้ๆ บ่าวน่ะเสียด๊ายเสียดายแทน ถ้าหากคุณบุญมีจะต้องหมดวาสนาในเวลาอันแสนรวดเร็ว"
นังแอบเฉลยพร้อมกับหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนจะคลานออกไปด้วยสีหน้าเยาะๆ ทำให้บุญมีนิ่งอึ้งหน้าซีดเผือดลง
หลังจากที่บุญมีนั่งคิดใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ บุญมีก็ตัดสินใจไปหาคุณสาลี่ที่ห้องเพื่อกราบขอโทษ คุณสาลี่นั้นนั่งหน้าตาบึ้งตึงอยู่ในห้องด้วยความโกรธ เมื่อบุญมีกลั้นใจเก็บความแค้นไว้ในใจแล้วคลานเข้าไปกราบขอโทษแทบตักนั้น คุณสาลี่นั่งหน้าบึ้งคอแข็ง
"อิฉันมากราบขอประทานโทษคุณพี่ค่ะ ต่อไปนี้อิฉันจะเชื่อฟังคุณพี่ทุกอย่าง" บุญมีกล่าวทั้งๆ ที่ในใจนั้นกำลังด่าคุณสาลี่
"กลัวจะถูกเฉดหัวออกไปละซิ" คุณสาลี่ปรายตามองพร้อมกับกล่าวเยาะๆ
"อิฉันสำนึกผิดจริงๆ ค่ะ แถวบ้านใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าอิฉันปากไม่ดี"
บุญมีกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมพร้อมกับยกมือขึ้นตบปากตัวเองฉาดใหญ่ แถมยังโดนคุณสาลี่ตบหน้าอีกฉาดโดยที่บุญมีไม่คาดคิด ทำให้เธอต้องเก็บกลั้นความแค้นที่แล่นขึ้นมาเต็มอกไว้อย่างยากเย็น หลังจากตบหน้าบุญมีเต็มแรงแล้ว คุณสาลี่จึงบอกญาติผู้น้องด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"นี่เป็นการลงโทษที่เอ็งบังอาจกับข้า ครั้งต่อไปข้าจะไม่อภัยให้เด็ดขาด!"
บุญมีก้มลงกราบสาลี่อีกครั้งพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ "อิฉันจะจำไว้เจ้าค่ะ"
หลังจากที่บุญมีเดินกลับไปที่ห้องด้วยความเคียดแค้นแล้ว คุณสาลี่ก็บอกกับนังแอบว่า เธอรู้สึกไม่ไว้ใจบุญมีเลยแต่ก็ต้องอดทน เพราะอย่างน้อยบุญมีก็ยังมีประโยชน์ตรงที่สามารถช่วยแยกท่านเจ้าคุณมาจากคุณหญิงแย้มศัตรูหมายเลข 1 ของเธอได้ หลังจากนั้นคุณสาลี่ก็สั่งนังแอบด้วยสีหน้าสะใจ
"พรุ่งนี้มึงไปหาหมอตำแยของเอ็งมา ไปตั้งแต่ย่ำรุ่งเลยนะ ข่าวมันจะได้แพร่ไปเร็วๆ"
วันรุ่งขึ้น ที่เรือนของคุณหญิงแย้ม ขณะที่ท่านเจ้าคุณกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กับคุณหญิงแย้ม นังแอบก็คลานปราดๆ เข้ามาเรียนท่านเจ้าคุณว่า คุณสาลี่ให้มาเรียนเชิญท่านเจ้าคุณไปที่เรือน คุณหญิงแย้มนิ่งอึ้งไปอึดใจก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
"นายเอ็งเขามีธุระร้อนอะไรหนักหนา ถึงต้องสั่งเอ็งมาตามท่านเจ้าคุณแต่เช้า"
นังแอบก้มหน้าซ่อนยิ้มอย่างสมใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบด้วยน้ำเสียงสะใจ
"ไม่ใช่ธุระของคุณท่านหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นเรื่องของคุณบุญมี คุณท่านให้อิฉันไปรับหมอตำแยมาตรวจคุณบุญมีตั้งแต่เช้า"
ท่านเจ้าคุณชะงักและมีสีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างเห็นได้ชัด ท่านหันไปถามนังแอบว่าหมอตำแยบอกว่าอย่างไรบ้าง
"อิฉันยังไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่คุณท่านคงมีเรื่องสำคัญจะเรียนให้ท่านเจ้าคุณทราบ"
ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณซักถามนังแอบอยู่นั้น คุณหญิงแย้มนั่งนิ่งสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ยายฟักยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจและเหลือบตามองคุณคุณหญิงแย้มด้วยความสงสาร เพราะพอซักนังแอบเสร็จ ท่านเจ้าคุณก็ขมีขมันลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าว "แม่แย้ม เดี๋ยวฉันมานะ ไม่แน่ ฉันอาจจะมีข่าวดีมาบอกแม่แย้ม"
กล่าวจบท่านเจ้าคุณก็เดินลิ่วลงบันไดไป นังแอบนั้นยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยก่อนจะก้มลงกราบคุณหญิงแล้วรีบเดินตามท่านเจ้าคุณไปติดๆ ส่วนคุณหญิงแย้มนั่งนิ่งอึ้งอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ

ที่ห้องของบุญมี ท่านเจ้าคุณเข้าไปนั่งกอดประคองบุญมีที่มีทีท่าอ่อนระโหยโรยแรงไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอมพร้อมกับบอกด้วยสีหน้าตื้นตัน "แม่บุญมี ขอบใจมากนะ"
บุญมีพนมมือกราบลงแทบอกท่านเจ้าคุณแล้วออเซาะเสียงหวาน "อิฉันขอฝากเนื้อฝากตัวกับคุณพี่ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่เจ้าค่ะ"
คุณสาลี่ที่นั่งอยู่ไม่ห่างกระแอมออกมาเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ บุญมีจึงรีบคลานเข้าไปหาคุณสาลี่ด้วยท่าทีประจบประแจงพร้อมกับบอกเสียงอ่อนๆ น่าสงสาร "อิฉันขอฝากชีวิตไว้กับคุณพี่ด้วยเจ้าค่ะ"
ท่านเจ้าคุณหันไปกอดคุณสาลี่ไว้ก่อนจะบอกด้วยสีหน้าปลื้มเปรม "แม่สาลี่ ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ฉันก็คงจะไม่มีความสุขเหมือนวันนี้"
"คุณพี่เป็นผู้มีพระคุณสูงสุดของอิฉัน อะไรที่พอจะตอบแทนได้ อิฉันต้องรีบทำทันทีเจ้าค่ะ"
คุณสาลี่ตอบด้วยสีหน้าอ่อนโยนเสียงหวาน โดยมีสายตาของบุญมีลอบมองอย่างจงเกลียดจงชัง
"ฉันโชคดี ที่แม่แย้มพาแม่สาลี่มาให้ แล้วแม่สาลี่ก็พาบุญมีมาให้ ทำให้ฉันมีลูกสมใจในที่สุด" ท่านเจ้าคุณกล่าวด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
นังม้วนและนังพิศ บ่าวเรือนของคุณสาลี่พาหมอตำแยที่คุณสาลี่ตกรางวัลให้เรียบร้อยแล้วเดินกลับไปส่งที่ท่าน้ำ ซึ่งจะต้องผ่านไปทางโรงครัว ที่เย็นกับละออนั่งช่วยงานยายใบอยู่แถวนั้น นังม้วนกับนังพิศจึงถือโอกาสด่ากระทบกระเทียบเย็นทันทีที่เดินผ่านโรงครัว โดยนังพิศเริ่มขึ้นก่อน
"อีพิศเอ๊ย มึงเคยได้ยินมั้ยที่เขาว่า แข่งเรือแข่งพายน่ะพอแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาน่ะมันยาก"
ทุกคนที่โรงครัวที่กำลังช่วยกันตระเตรียมอาหารคนละไม้คนละมือหยุดชะงักและหันไปมองนังม้วนกับนังพิศเป็นตาเดียวกัน รวมทั้งละออกับเย็นที่เพิ่งเดินผ่านมาด้วยเช่นกัน นังพิศจึงชี้นิ้วกราดและกล่าวขึ้นลอยๆ
"พวกมึงทุกคน ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า คุณบุญมีท้องแล้ว"
พวกบ่าวไพร่พากันตกตะลึงอ้าปากค้างไปตามๆ กัน เย็นกับละออนั้นหันกลับมาสบตากันแว่บหนึ่งแล้วหันกลับไปจ้องมองนังม้วนกับนังพิศที่ถูกยายใบซักด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่าจริงหรือ และสองสาวนั้นก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "จริงแท้แน่นอน"
ยายใบยกมือไหว้ท่วมหัวด้วยความดีใจ และว่า "เจ้าประคุณเอ๋ย ในที่สุดท่านเจ้าคุณก็สมปรารถนาเสียที"
นังม้วนปรายตามองเย็นก่อนจะว่าเอาตรงๆ ซึ่งๆ หน้า "ไง อีเย็น ฝันสลายซะแล้วใช่ไหมล่ะ ใคร้ ใคร ที่ไหนเขาจะขุดอีบ้านนอกอย่างมึงขึ้นมาเป็นเมีย กลับไปตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาไป๊"
เย็นจ้องหน้านังม้วนแล้วถามเสียงแข็ง "แล้วข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย"
ทุกคนในโรงครัวพากันสะดุ้งเฮือก กับคำถามของเย็น และยิ่งสะดุ้งมากขึ้นเมื่อเย็นกล่าวต่อ
"ข้าไม่ได้ยุ่งกับใคร แต่ใครก็อย่ามายุ่งกับข้าแล้วกัน"
นังม้วนเต้นจนโจงกระเบนแทบจะหลุดแล้วปราดเข้ามาชี้หน้าเย็นและท้าตบด้วยความโกรธ ซึ่งเย็นก็รับคำท้า ละออซึ่งยืนอยู่กับเย็นเห็นนังม้วนกับนังพิศปราดเข้ามาทำท่าจะรุมเย็น ละออจึงขยับเข้าไปช่วยเย็น จึงกลายเป็นสองคู่ตบกันอุตลุด ส่วนหมอตำแยได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ส่วนบ่าวไพร่คนอื่นๆ พากันส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน มีแต่เพียงยายใบตะโกนห้ามเสียงขรม
"เฮ้ย หยุด! บอกให้หยุด! มึงจะตีกันก็ไปตีกันที่อื่น หยุด!"
แต่ไม่มีใครฟังเสียง ยายใบจึงหันไปบอก บุ้งซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาว่าให้ช่วยห้าม
"เอ็งช่วยห้ามหน่อยซิ นังบุ้ง คุณหญิงท่านยิ่งไม่ชอบให้บ่าวไพร่ทะเลาะกันอยู่"
บุ้งหันซ้ายหันขวาแล้วก็คว้าถังใกล้มือตักน้ำสาดโครมไปที่ 4 สาวที่กำลังตบตีกันจ้าละหวั่น ทำให้ทั้งหมดแยกจากกันโดยอัตโนมัติ เสียงบุ้งสาวใหญ่ลูกสาวยายใบบ่นออกมาดังๆ "กัดกันเหมือนหมา!"
ระหว่างนั้นเอง ยายฟักก็เดินดุ่มๆ เข้ามาร้องถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ละออกับเย็นได้แต่นิ่งอึ้งไม่ยอมตอบ ยายฟักจึงสั่งให้ละออกับเย็นกลับเรือน
และเมื่อทั้งหมดเดินกลับมาถึงเรือนที่พัก เย็นก็รีบพูดขึ้นว่าพวกนังม้วนและนังพิศมาหาเรื่องเธอกับละออก่อน เพราะเธอกับละออเดินมาดีๆ นังม้วนก็มาท้าตบ
"แล้วเอ็งก็ตบกับมัน"
ยายฟักว่าพร้อมกับจ้องหน้าเย็นด้วยสีหน้านิ่งๆ ทำให้เย็นหลบตาลงมองพื้นอย่างเสียใจ ยายฟักจึงกล่าวต่อ
"งั้นถ้าหมากัดเอ็ง เอ็งก็กัดกับมันใช่ไหม" ยายฟักกล่าวเสียงเนิบๆ
เย็นนิ่งอึ้งกับคำว่าหมาที่ยายฟักกล่าว เพราะมันทำให้เธอหวนคิดไปถึงครั้งก่อนที่ถูกคุณสาลี่และนังแอบชี้หน้าว่าเป็นหมา น้ำตาของสาวรุ่นผู้อาภัพรื้นขึ้นมาเต็มขอบตาด้วยความคับแค้นใจ เย็นเงยหน้าขึ้นและโพล่งออกมา
"ทำไมยายต้องว่าฉันเป็นหมาด้วย! พ่อแม่ขายฉันมาเป็นบ่าว ไม่ใช่เป็นหมานะ"
"นังเย็น"
ยายฟักเรียกเย็นเสียงเข้มเป็นการเตือนสติ แต่เย็นน้อยใจและเสียใจจนไม่ฟังอะไรแล้ว น้ำตาของเย็นไหลพรากพร้อมกับความคับแค้นใจที่เก็บกดไว้ไหลบ่าออกมาราวกับทำนบแตก
"พวกที่เรือนโน้นก็เหมือนกัน ชอบว่าฉันเป็นหมา บ่าวแปลว่าหมาหรือยาย ฉันจะได้จำเอาไว้"
"หยุดนะ นังเย็น! ข้าไม่ได้ว่าเอ็งเป็นหมาสักคำ ข้าแค่ถามเอ็งว่า ถ้าหมามันกัดเอ็ง เอ็งต้องกัดตอบมันด้วยหรือ ก็แค่นี้เอง"
ยายฟักอธิบายอย่างใจเย็น ในขณะที่เย็นกัดฟันกลั้นสะอื้น แต่น้ำตาไหลยังคงไหลพราก ทำให้ยายฟักมองเย็นด้วยความเวทนาก่อนที่จะสอนต่อ
"เป็นบ่าวเขา เป็นทาสเขาต้องอดทน"
"ถึงแม้เราจะทนไม่ไหว หรือจ๊ะยาย" เย็นถามเสียงเจือสะอื้น
"ใช่ เก็บน้ำตาไว้เถอะเย็น ยังมีเวลาร้องไห้อีกมากเมื่อเอ็งโตขึ้น รู้จักชีวิตมากขึ้น พอถึงเวลานั้น เมื่อเอ็งย้อนกลับมามอง เอ็งจะเห็นว่า ทุกเรื่องที่เกิดวันนี้เป็นแค่เรื่องเล็กนิดเดียว บางครั้งก็ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง"
ประโยคท้ายนั้นยายฟักพึมพำเหมือนกับจะพูดกับตัวเองมากกว่าจะบอกเย็นสาวน้อยที่นางเวทนายิ่งนัก
"น่ากลัวจัง ฉันไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วละยาย" เย็นพึมพำหลังจากที่เช็ดน้ำตาจนแห้งแล้ว
ยายฟักเอื้อมมือไปลูบหัวเย็นด้วยรักและสงสารก่อนจะกล่าวต่อ "ทุกคนต้องโตขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่านายว่าทาส ยิ่งโตมาก ความทุกข์ก็ยิ่งมาก ข้าถึงบอกให้เอ็งอดทน รู้จักกล้ำกลืนความทุกข์เอาไว้ เพราะความทุกข์บางอย่างเราก็ไม่สามารถบอกใครได้"
เย็นแหงนเงยหน้าขึ้นมองยายฟักอย่างสงสัยพร้อมกับถาม "ยายเคยเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าจ้ะ"
"ขึ้นชื่อว่าคน ไม่ว่าจะเป็นใคร เป็นนายหรือเป็นบ่าว ก็ต้องมีเวลาอย่างนั้นทุกคน"
ยายฟักตอบด้วยดวงตาที่ฟ้าฟางเพราะน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มดวงตา เย็นมองหน้ายายฟักแล้วขยับเข้าไปจนชิดแล้วกอดยายฟักไว้เต็มอ้อมกอดพร้อมกับบอก "ยาย ขอฉันกอดยายหน่อยได้ไหมจ๊ะ ฉันคิดถึงแม่"
น้ำตาของฟักหยาดหยดลงมาตามร่องแก้มที่เหี่ยวย่น นางโอบเย็นไว้ด้วยสีหน้าตื้นตันและเวทนาสาวรุ่นที่แสนจะอาภัพ ความผูกพันเอ่อท้นจนท่วมใจที่มีความเวทนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนับวันก็จะมีมากยิ่งขึ้น เสียงเย็นดังขึ้นแผ่วๆ
"บางที ปีหน้าขายข้าวได้ แม่คงจะเอาอัฐมาไถ่ตัวฉัน ฉันก็จะได้กลับบ้าน ไม่ต้องเก็บความทุกข์ไว้อย่างที่ยายว่า"
ยายฟักได้แต่ลูบหัวลูบหลังเย็นอย่างเวทนา เพราะนางรู้ดีว่าความฝันของเย็นไม่มีทางที่จะเป็นจริงไปได้เลย
นังม้วนและนังพิศกลับไปถึงเรือนคุณสาลี่ก็จีบปากจีบคอฟ้องคุณสาลี่ โดยแต่งเติมเสริมความดีเข้าใส่ตัวแล้วโยนความผิดทั้งหมดให้เย็น คุณสาลี่รู้แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ พอท่านเจ้าคุณเดินออกมาจากห้องของบุญมี คุณสาลี่จึงสั่งให้นังแอบไปเชิญท่านเจ้าคุณมาที่เรือนของเธอและบอกเล่าเรื่องที่บ่าวของเธอถูกเย็นระรานด้วยสีหน้าเกรงอกเกรงใจ
"ความจริงอิฉันก็ไม่อยากจะเอาเรื่องร้อนหูร้อนใจมาให้คุณพี่ แต่มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะคนของอิฉันถูกข่มเหงครั้งแล้วครั้งเล่า"
คุณสาลี่บอกเล่าด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ น่าสงสาร และพอท่านเจ้าคุณถามอย่างสงสัยว่าใครข่มเหงรังแกใคร คุณสาลี่ก็รีบเรียกนังม้วนกับนังพิศมาเล่าให้ท่านเจ้าคุณฟังทันที โดยทำเป็นกำชับให้บ่าวทั้งสองคนพูดแต่ความจริง ห้ามต่อเติมเสริมแต่งเพราะเธอและท่านเจ้าคุณไม่ชอบ
หลังจากที่ท่านเจ้าคุณฟังเรื่องจบก็ใช้ให้นังแอบไปตามเย็นมาพบท่านที่เรือนคุณสาลี่เพื่อตัดสินคดีความ เมื่อเย็นมาถึงก็คลานเข้าไปกราบท่านเจ้าคุณที่นั่งหน้าเคร่งขรึมและเอ่ยปากถามทันทีว่า "เอ็งตบนังม้วนกับนังพิศทำไม!"
เย็นนิ่งอึ้งเม้นปากแน่นอย่างน้อยใจ ก่อนจะตอบว่าเป็นเพราะนังม้วนกับนังพิศมาตบเธอก่อน แต่นังม้วนกับนังพิศโพล่งออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า "ข้าจะไปตบเอ็งก่อนทำไม"
ท่านเจ้าคุณเองก็อึ้งไปอึดใจก่อนจะถามย้ำว่า "แล้วนังม้วนมันจะตบเอ็งก่อนทำไม!"
คำถามของท่านเจ้าคุณทำให้เย็นนิ่งก้มและก้มหน้ามองพื้นอย่างอัดอั้น เพราะอายไม่กล้าที่จะบอกท่านเจ้าคุณว่าเพราะนังม้วนและนังพิศตะโกนว่าเธอว่า
"ไง อีเย็น ฝันสลายซะแล้วใช่ไหมล่ะ ใคร้ใครที่ไหนเขาจะขุดอีบ้านนอกอย่างมึงขึ้นมาเป็นเมีย กลับไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาไป๊"
เย็นได้แต่ก้มหน้านิ่งอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบแม้ว่าท่านเจ้าคุณจะถามย้ำอย่างไรก็ตาม เธอก็ได้แต่ตอบว่า "บ่าวตอบไม่ได้เจ้าค่ะ"
คุณสาลี่แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่ใจดีถามเย็นอย่างเมตตาว่า "อ้าว ทำไมล่ะเย็น เอ็งไม่ตอบ ท่านเจ้าคุณท่านก็จะไม่รู้เรื่อง มีอะไรคับอกคับใจหรือเปล่า"
เย็นเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าคุณสาลี่ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเกลียดชังจนท่านเจ้าคุณไม่พอใจที่เย็นบังอาจมองคุณสาลี่ด้วยสายตาวาวโรจน์ และเมื่อเย็นไม่ยอมตอบ ท่านเจ้าคุณจึงตัดสินให้เย็นเป็นคนผิด และสั่งให้เย็นกราบขอโทษคุณสาลี่แล้วก็ขอโทษนังม้วนกับนังพิศ ซึ่งเย็นจำใจต้องทำตามคำสั่งของท่านเจ้าคุณด้วยความคับแค้นก่อนจะเดินแกมวิ่งร้องไห้กลับไปยังเรือนยายฟัก ซึ่งพอไปถึงเย็นก็เข้าห้องปิดประตูทันทีไม่ยอมตอบคำถามของยายฟักกับละออที่คอยรออยู่ด้วยความเป็นห่วง
หลังจากที่บุญมีให้นังแอบ นังม้วนและนังพิศเที่ยวป่าวประกาศว่าเธอกำลังจะมีลูกให้ท่านเจ้าคุณแล้ว บุญมีก็เที่ยวออกมาเดินวางอำนาจกับพวกข้าทาสบริวารที่บริเวณเรือนหลังใหญ่และโรงครัว จนกระทั่งเลยเถิดไปถึงเรือนของคุณหญิงแย้ม บุญมีก็ไม่ละเว้น เธอเดินวางท่าเข้าไปทักทายและแนะนำตัวเองกับคุณหญิงแย้มอย่างคนที่เหนือกว่า
"อิฉันชื่อบุญมีค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย"
กล่าวจบบุญมีก็ใช้สายตามองกราดคุณหญิงแย้มตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับกล่าวต่อ "คุณพี่ยังสาวยังสวยอยู่มากนะคะ อิฉันน่ะหลงนึกว่าแก่แล้ว"
คุณหญิงแย้มต้องนิ่งอึ้งระงับสติอารมณ์อยู่อึดใจจึงเอ่ยปากตอบ "ได้ยินว่าหล่อนกำลังจะมีลูก"
"ค่ะ ท่านเจ้าคุณดีใจใหญ่เลย มีเมียตั้ง 2 คน แต่ไม่มีลูกให้ท่าน อิฉันมาเดี๋ยวเดียวก็ทำให้ท่านสมปรารถนาได้ คุณพี่ว่าอิฉันมีบุญไหมคะ"
คุณหญิงแย้มยังคงมีสีหน้าสงบเยือกเย็นเมื่อใช้สายตาเย็นชามองหน้าบุญมีแทนคำตอบ
พ่อยิ่งขโมยเอาอัฐที่แม่ล้วนแอบเก็บซ่อนไว้เพื่อจะเอาไว้ไถ่ตัวเย็นไปเล่นถั่วเล่นโปจนหมดเกลี้ยง ทำให้แม่ล้วนสงสารเย็นมาก นางจึงไปเก็บฝักบัวและสายบัวที่ท้องทุ่งแล้วเอามาเยี่ยมเย็นด้วยความรักและคิดถึง พอเย็นรูว่าแม่ล้วนมาหาก็วิ่งหน้าบานมาหาแม่ทันทีด้วยความดีใจ แต่พอรู้ว่าแม่ล้วนมาเยี่ยมเฉยๆ ไม่มีอัฐมาไถ่ตัวเธอกลับไป เย็นก็หน้าสลดก่อนจะบอกแม่ด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่ ฉันรู้ว่าต้องรักษาพ่อก่อน ฉันอยู่นี่ก็สบายดี"
แม่ล้วนนิ่งอึ้งมองหน้าลูกด้วยความสงสารได้แต่ถามย้ำว่า "เอ็งสบายจริงๆ หรือ"
"คุณหญิงท่านใจดี"
เย็นตอบเลี่ยงไปเพราะไม่อยากให้แม่ล้วนไม่สบายใจ และเมื่อถึงเวลาที่แม่ล้วนจะกลับ เย็นก็เฝ้าแต่สั่งเสียแม่อย่างน่าสงสาร ว่าหากว่าปีหน้าขายข้าวได้ขอให้แม่เก็บอัฐมาไถ่ตัวเธอกลับไปบ้านด้วย
ท่านเจ้าคุณสีหโยธินเอาสร้อยทองไปให้คุณสาลี่เป็นรางวัลที่คุณสาลี่ทำให้ท่านได้ลูกสมความปรารถนา คุณสาลี่ก้มลงกราบท่านเจ้าคุณอย่างนอบน้อมและยิ้มแย้มก่อนจะตอบอย่างประจบ
"ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้คุณพี่มีความสุขได้ อิฉันจะรีบทำทันทีเจ้าค่ะ"
ท่านเจ้าคุณยิ้มอย่างอารมณ์ดีและว่า "คิดๆ ดูแล้วก็แปลก แม่แย้มไม่มีลูก ก็อุตส่าห์พาแม่สาลี่มาให้ฉัน พอแม่สาลี่ไม่มี ก็อุตส่าห์พาแม่บุญมีมาให้ฉันอีก"
คุณสาลี่ยิ้มหวานก่อนจะกล่าวต่อ "แต่คราวนี้คุณพี่ก็ได้มีสมใจ"
ท่านเจ้าคุณรั้งตัวคุณสาลี่เข้ามากอดไว้อย่างมีความสุขและว่า "ขอบใจหล่อนมาก"
แต่พอท่านเจ้าคุณขยับตัวจะลุกขึ้นเอาสร้อยทองอีกเส้นไปให้บุญมีเป็นรางวัล คุณสาลี่ก็รั้งท่านเจ้าคุณไว้และว่า บุญมีแพ้ท้องอ่อนเพลียหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ท่านเจ้าคุณจึงอยู่กับคุณสาลี่แทนที่จะไปหาบุญมีที่ห้องพร้อมกับฝากสร้อยทองของบุญมีไว้ที่คุณสาลี่ เพราะพรุ่งนี้เช้าท่านเจ้าคุณจะต้องไปที่กรมแต่เช้า
บุญมีนั้นแอบมองอยู่ที่ห้องด้วยความแค้น เพราะบุญมีเพิ่งจะรู้ความจริงว่า การที่คุณสาลี่บอกให้เธอบอกกับใครๆ รวมถึงท่านเจ้าคุณว่าเธอท้อง ก็เพราะคุณสาลี่ไม่ต้องการให้ท่านเจ้าคุณมาหาเธอที่ห้องนั่นเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น คุณสาลี่เอาทองเส้นใหญ่ ซึ่งเป็นคนละเส้นกับที่ท่านเจ้าคุณฝากไว้มาให้บุญมีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและบอกว่า
"ฉันเห็นสร้อยเส้นเดิมมันดูเล็กไปหน่อย ก็เลยขอเส้นใหญ่จากคุณพี่ให้ จะได้สมกับความดีความชอบที่หล่อนสามารถท้องให้คุณพี่ได้"
บุญมีนั้นตาโตตั้งแต่เห็นสร้อยทองเส้นใหญ่แล้วจึงรีบก้มลงกราบคุณสาลี่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
"ขอบพระคุณคุณพี่มากเหลือเกินค่ะ"
"ไม่เป็นไร มานี่ ฉันจะสวมให้"
คุณสาลี่หยิบสายสร้อยมาแกะตะขอแล้วสวมคอให้บุญมีด้วยสีหน้าที่มีเลศนัย ในขณะที่บุญมีพร่ำขอบคุณสาลี่ไม่รู้จบ ซึ่งคุณสาลี่ก็ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไป
"ไม่เป็นไร เราเป็นพี่น้องกัน มีอะไรจะช่วยกันได้ก็ต้องช่วย ฉันไปละ"

-
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/lakorn/

ไม่มีความคิดเห็น: