นางทาส ตอนที่ 5

หลังจากที่รับใช้คุณหญิงแย้มเสร็จแล้ว ยายฟักและเย็นก็กลับมาที่เรือนพัก ยายฟักมองหน้าที่เรียบเฉยแต่อมทุกข์ของเย็นอย่างด้วยความสงสารว่าเป็นอย่างไรบ้าง เย็นเหลือบตาดูยายฟักแว่บหนึ่งน้ำตารื้นขึ้นเต็มขอบตาด้วยความทุกข์ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็กล้ำกลืนน้ำตาและความทุกข์ทั้งหมดลงไปในอกแล้วตอบ
"เกือบจะไม่รู้สึกอะไรแล้วละยาย"
ยายฟักพยักหน้าช้าๆ แล้วสอนด้วยน้ำเสียงเนิบๆ
"เมื่อไหร่ที่เอ็งไม่รู้สึก ต่อไปภายหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเอ็งก็ไม่ต้องทุกข์ทรมานเจียนตาย แม้กระทั่งหากพ่อแม่ของเอ็งไม่มาไถ่ตัว เอ็งก็ไม่ต้องทุรนทุรายเฝ้ารอเหมือนที่ผ่านมา"
"คนเราจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลยได้ถึงขนาดนั้นเชียวหรือจ้ะ" เย็นถามด้วยน้ำเสียงหมองๆ
"ถ้าไม่อยากทุกข์ทรมานเอ็งต้องพยายามทำให้ได้ หรือไม่ก็สะกดกลั้นเอาไว้ให้อยู่ลึกที่สุด"
เย็นฟังแล้วก็ได้แต่กล้ำกลืนก้อนสะอื้นที่แล่นขึ้นมาจุกคอไว้ มีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ด้วยความทุกข์ที่อยู่นั้นมันมากมายเสียจนเย็นกลั้นไม่ไหว
หลายเดือนผ่านไป ยายฟักเฝ้าดูแลเย็นอย่างดี คอยกำชับกำชาไม่เย็นออกไปกรำแดดเล่นซุกซนกับละออ ทำให้เย็นสะสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และเก่งการบ้านการเรือนขึ้นจนคุณหญิงแย้มออกปากในวันหนึ่งที่เย็นเข้ามารับใช้อยู่ใกล้ๆ เธอด้วยความเป็นห่วง
"นังเย็นมันดูขาวขึ้น เป็นน้ำเป็นนวลขึ้นนะฟัก"
"เจ้าค่ะ การงานก็ดีขึ้นด้วยเจ้าค่ะ" ยายฟักรีบรายงานพลางมองเย็นอย่างปลื้มใจ
คุณหญิงแย้มพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เย็นขึ้นมารับใช้เธออย่างใกล้ชิดด้วยกิริยามารยาทที่เรียบร้อยไม่มีที่ติ ไม่ว่าเธอจะเรียกหาเอาอะไรก็ได้อย่างใจทุกอย่าง แม้กระทั่งมาลัยไหว้พระ เย็นก็สามารถร้อยให้เธอได้อย่างงดงาม จนเธอไว้ใจเรียกให้เย็นมานอนเป็นเพื่อนเธอเวลาที่ท่านเจ้าคุณไปนอนค้างที่เรือนเล็กของคุณสาลี่กับบุญมี
และในคืนนี้ก็เช่นกัน ที่คุณหญิงแย้มสั่งให้เย็นขึ้นมานอนเป็นเพื่อนเธอ แต่วันนี้เย็นขึ้นมาช้าผิดปกติจนคุณหญิงเอ่ยปากถามอย่างสงสัยว่าทำไมเย็นถึงมาช้า เย็นจึงเล่าให้คุณหญิงฟังว่า เป็นเพราะเธอเจอบุญมีมาด้อมๆ มองๆ อยู่ที่พุ่มไม้ข้างๆ เรือนใหญ่
"เอ๊ะ ไหนว่าตกบันไดแท้งลูก ทำไมถึงได้แข็งแรงเร็วนัก"
คุณหญิงแย้มบ่นอย่างสงสัยแต่เย็นกลับตอบไปอีกทาง
"คุณหญิงนอนเถอะนะเจ้าค่ะ"
ว่าแล้วเย็นก็ช่วยคลี่ผ้าห่มออกห่มให้คุณหญิงที่เอนตัวลงอย่างว่าง่ายแต่ก็ยังกล่าวต่อ
"ข้าอยากมีลูก"
เย็นชะงักงันกับน้ำเสียงเศร้าๆ ของคุณหญิงแย้มนิดหนึ่ง คุณหญิงจึงกล่าวต่อ
"จริงๆ นะเย็น ข้าอยากมีลูกเหลือเกิน"
"อีกหน่อยคุณหญิงก็คงจะมีเองเจ้าค่ะ" เย็นปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่ข้าจะมีลูกกับเขาบ้างฮึเย็น" คุณหญิงย้อนถามด้วยน้ำเสียงเครือจัด
"บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ คุณหญิงนอนเถอะนะเจ้าคะ บ่าวจะกล่อมให้"
"เอ็งกล่อมเป็นด้วยหรือ"
เย็นคลี่ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง น้ำตาเอ่อขึ้นมากลบนัยน์ตาก่อนตอบ
"เจ้าค่ะ บ่าวจำได้ แม่เคยกล่อมบ่าวตอนเด็กๆ"
จากนั้นเย็นก็ร้องเพลงกล่อมที่แม่ล้วนเคยร้องกล่อมให้เธอนอนให้คุณหญิงฟังทั้งน้ำตา เพราะเย็นคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ ความทุกข์โศกที่อยู่ในใจของเย็นนั้นมากมายนัก
บ่ายวันหนึ่งขณะที่เย็นนั่งร้อยมาลัยให้คุณหญิงแย้มอยู่ที่ชานนั่งเล่น คุณสาลี่ก็เดินนวยนาดนำหน้าบ่าวคนสนิทขึ้นมาพบคุณหญิงแย้มบนเรือน และกล่าวขอเงินค่าเลี้ยงดูบุญมี โดยบอกว่าหากคุณหญิงไม่ให้เธอก็จะไปขอกับท่านเจ้าคุณเอง เพราะทุกวันนี้ท่านเจ้าคุณก็ไปนอนค้างที่เรือนของเธอมากกว่าที่จะนอนอยู่ที่เรือนใหญ่อยู่แล้ว คำพูดของคุณสาลี่ทำให้คุณหญิงแย้มนั่งนิ่งขึงด้วยความทุกข์ใจและเสียใจ
"อิฉันน่ะเห็นใจคุณพี่จริงๆ นะคะ อากาศเย็นๆ อย่างนี้ แต่ต้องนอนคนเดียวทุกคืนน่ะคงเปล่าเปลี่ยวทีเดียวนะเจ้าคะ" คุณสาลี่ถากถางคุณหญิงอย่างสนุกปาก
เย็นเงยหน้าจึ้นจ้องมองคุณสาลี่ด้วยความโกรธแทนคุณหญิงที่เอาแต่นั่งนิ่งขึง แล้วเย็นก็เอ่ยขึ้นลอยๆ "ปากเหม็น"
คุณสาลี่หันขวับไปจ้องหน้าเย็นแล้วตะคอกใส่ "เอ็งว่าใครอีเย็น"
"ใครก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ ตัวอยู่ตรงโน้น แต่พอพูดออกมาปากเหม็นมาถึงตรงนี้"
ยายฟักและบ่าวคนอื่นๆ ตกตะลึงกับความอาจหาญของเย็น ในขณะที่คุณสาลี่ถลาเข้าไปจะตบเย็น คุณหญิงแย้มก็ลุกขึ้นยืนและเอ่ยปากบอกให้คุณสาลี่หยุดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ คุณสาลี่ชะงักและหันมามองหน้าคุณหญิงอย่างเกรงๆ ก่อนจะขึ้นเสียงบอก
"อีเย็นมันด่าอิฉัน"
"กลับไป" คุณหญิงแย้มเน้นเสียงหนักๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"คุณพี่เข้าข้างอีบ่าว อีทาสหรือคะ"
"ฉันบอกให้กลับไป"
คุณหญิงแย้มกล่าวพลางจ้องหน้าคุณสาลี่ด้วยสีหน้านิ่งสงบแววตาเย็นเยียบ ในขณะที่คุณสาลี่นั้นแววตาลุกโชนราวกับมีไฟสุมอยู่ ซึ่งสุดท้ายคุณสาลี่ก็จำต้องถอยทัพกลับไป เพราะไม่ว่าอย่างไรคุณสาลี่ก็ยังเกรงคุณหญิงแย้มอยู่นั่นเอง
หลังจากที่คุณสาลี่กลับไปแล้ว เย็นประคองคุณหญิงแย้มเข้าไปนั่งพักที่ในห้องด้านในพลางปลอบด้วยความเป็นห่วงคุณหญิงที่เอาแต่นิ่งขึง
"คุณหญิงอย่าไปฟังมัน เอ๊ย เขานะเจ้าคะ ท่านเจ้าคุณรักคุณหญิงมากบ่าวรู้"
น้ำตาของคุณหญิงรื้นเต็มขอบตาด้วยความทุกข์อย่างแสนสาหัสก่อนจะพึมพำตอบ
"เอ็งไม่รู้หรอก"
"บ่าวรู้เจ้าค่ะ ท่านเจ้าคุณรักคุณหญิงมาก แล้วคุณหญิงอยากมีลูก ถ้าบ่าวมีลูก บ่าวจะยกให้คุณหญิง" เย็นตอบคุณหญิงด้วยความรักและภักดีอย่างจริงใจ
คุณหญิงแย้มชะงักและจ้องหน้าเย็นอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะถาม "เอ็งพูดจริงๆ หรือ"
"จริงเจ้าคะ"
เย็นตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้คุณหญิงแย้มน้ำตาหยดด้วยความตื้นตัน เธอยกมือขึ้นลูบหัวเย็นที่นั่งหมอบลงนวดเท้านวดขาให้เธออย่างภักดีด้วยความเมตตา
เย็นสังเกตเห็นว่าคุณหญิงแย้มนั้นเศร้าหมองและทุกข์โศกจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แถมยังถูกคุณสาลี่มาระรานจนถึงเรือนใหญ่ เธอจึงไปคอยดักพบท่านเจ้าคุณสีหโยธินในตอนเย็นวันเดียวกันนั้นก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินไปยังเรือนของคุณสาลี่ โดยเย็นบอกกับท่านเจ้าคุณที่ชะงักมองหน้าเย็นอย่างแปลกใจว่า
"คุณหญิงรับประทานข้าวไม่ค่อยลงเจ้าค่ะ"
"นังใบทำกับข้าวไม่อร่อยกระมัง" ท่านเจ้าคุณตอบอย่างอารมณ์ดี
"อร่อยเจ้าค่ะ แต่ ท่านเจ้าคุณไม่ค่อยอยู่รับประทานด้วย"
ท่านเจ้าคุณนิ่งอึ้งมองหน้าเย็นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกเดินต่อ เย็นถลาออกไปขวางหน้าแล้วเอ่ยปากขอร้อง
"ท่านเจ้าคะ อย่าไปเลยเจ้าค่ะ"
"แล้วมันกงการอะไรของเอ็ง"
ท่านเจ้าคุณว่าก่อนเดินหลีกเย็นที่ยืนนิ่งหน้าสลดออกไป โดยมีสายตาของของเย็นมองตามไปด้วยความเศร้าใจ
ขณะที่ท่านเจ้าคุณนั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับคุณสาลี่ที่เรือนเล็กนั้น ท่านเจ้าคุณเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงคำพูดของเย็นที่มาพูดขอร้องท่านไม่ให้มาที่เรือนหลังเล็ก

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่คุณสาลี่เดินไปส่งท่านเจ้าคุณกลับเรือนใหญ่ บุญมีก็หอบข้าวของสมบัติส่วนตัวขึ้นมาที่เรือนของคุณสาลี่ โดยบอกกับบ่าวไพร่ว่าเธอจะขึ้นมาอยู่ที่เรือนหลังนี้ นังแอบจึงรีบวิ่งไปรายงานคุณสาลี่ที่เดินกลับเรือนมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
คุณสาลี่เดินหน้าบึ้งตึงขึ้นมาบนเรือนด้วยความโมโห แต่บุญมีก็ไม่สะทกสะท้านกับสีหน้าและอารมณ์ของคุณสาลี่ บุญมีลอยหน้าลอยตาบอกคุณสาลี่ว่า
"ก็อย่างที่อิฉันบอกน่ะค่ะ อิฉันเป็นเมียท่านเจ้าคุณเหมือนกันกับคุณพี่ จะให้อยู่เรือนซอมซ่อหลังแค่นั้นคงไม่งาม อีกอย่าง กว่าท่านเจ้าคุณจะเดินไปถึงเรือนอิฉัน คุณพี่ก็ขวางเอาไว้ก่อนทุกที อยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละยุติธรรมดีแล้ว"
"อี..." คุณสาลี่โกรธจนพูดไม่ออก
"อย่าขึ้นไอ้ขึ้นอีซิคะ ทั้งคุณพี่แล้วก็อิฉัน เราต่างก็เป็นเมียท่านเจ้าคุณเหมือนกัน อ้อ! ยังมีอีกนิดหนึ่ง สร้อยเส้นนี้ท่านเจ้าคุณฝากคุณพี่ให้อิฉัน ใช่มั้ยคะ ท่านเจ้าคุณบอกอิฉันเอง อิฉันเห็นแก่หน้าคุณพี่เลยไม่ได้เรียนท่านไปว่า คุณพี่มาพูดเอาดีใส่ตัวกับอิฉันอย่างไร เอ๊ะ หรือจะบอกดี"
คุณสาลี่กับนังแอบสะดุ้งเฮือกและพานพูดอะไรไม่ออก นอกจากสะบัดเสียงบอกบุญมีว่า
"อย่านะ หล่อนจะอยู่ห้องนี้ก็อยู่ไป"
แล้วคุณสาลี่ก็ได้แต่เดินสะบัดหน้ากลับเข้าห้องตนเองไป ทิ้งให้บุญมีหัวเราะออกมาอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่ากับนังป่วนที่พึมพำออกมาด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วยว่า
"คุณไม่น่าทำอย่างนั้น"
บุญมีจ้องหน้านังป่วนอย่างขัดใจก่อนจะตวาด "กูจะทำ เพราะถ้าไม่ทำ นังสาลี่มันจะข่มกูไม่มีที่สิ้นสุด"
คุณหญิงยิ้มนั้นยุให้คุณหญิงแย้มยกเย็นให้ท่านเจ้าคุณสีหโยธินทุกครั้งที่คุณหญิงแย้มไปหาด้วยความทุกข์ใจเกี่ยวกับเรื่องท่านเจ้าคุณสีหโยธิน โดยให้เหตุผลว่า
"จริงๆ นะ ทางเรือนโน้นเขามีกันตั้ง 2 คน แต่ที่เรือนแม่แย้มมีคนเดียว ท่านเจ้าคุณก็ต้องเลือกไปทางโน้นอยู่แล้ว ทีนี้แม่แย้มจะท้องได้อย่างไร ดีไม่ดี ทั้งแม่สาลี่แล้วก็แม่บุญมีเกิดท้องขึ้นมาพร้อมๆ กันมันจะยิ่งไปกันใหญ่ คิดดูอีกทีนะแม่แย้ม"
คุณหญิงแย้มกลับมาถึงบ้านก็ต้องทอดถอนใจด้วยความกลัดกลุ้มเหมือนเดิน และเมื่อเล่าเรื่องที่คุณหญิงยิ้มแนะนำให้ยายฟักฟัง ยายฟักก็ยังยืนยันความคิดเดิมที่ว่าให้ยกเย็นให้กับท่านเจ้าคุณเสีย ซึ่งคุณหญิงก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับบอกด้วยสีหน้าหมองเศร้า
"ข้าบอกแล้วว่า ข้าไม่ชอบข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า เป็นเมียบ่าวน่ะไม่ได้มีความสุขนักหรอกนะ ข้าเวทนามัน"
"คุณหญิงเจ้าขา ทาสอย่างนังเย็น ได้เป็นเมียท่านเจ้าคุณ ถึงจะเป็นเมียบ่าว แต่ก็นับว่าเป็นวาสนานะเจ้าคะ ดีกว่าเป็นเมียทาสด้วยกันเสียอีก" ยายฟักว่า
"เป็นเมียทาสด้วยกัน แต่ถ้าผัวรักเดียวใจเดียว มีเมียเพียงคนเดียว อาจจะมี
ความสุขกว่าเป็นเมียพระน้ำพระยาที่มีเมียหลายคนก็ได้"
คุณหญิงพลางน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความทุกข์ ทำให้ยายฟักต้องเอื้อมมือไปจับขาคุณหญิงไว้ด้วยความสงสารอย่างสุดหัวใจ คุณหญิงเอาผ้าซับหัวตาแล้วฝืนยิ้มให้ข้าเก่าที่จงรักภักดีก่อนจะบอก
"ข้าไม่เป็นไรหรอกฟัก สุดแต่เวรแต่กรรม"
ยายฟักนิ่งอึ้งอยู่อึดใจใหญ่แล้วก็ตัดสินใจบอกคุณหญิงแย้มก่อนจะคลานออกไปจากห้องว่า
"บ่าวจะลองถามนังเย็นมันดู"
คืนวันนั้นเอง ยายฟักก็เรียบๆ เคียงถามเย็นถึงเรื่องการมีคู่ครองว่าเย็นคิดอย่างไร เย็นได้แต่ส่ายหน้าแล้วบอกว่า เธอไม่เอาเด็ดขาดเพราะเธอไม่อยากเป็นอย่างแม่
"แม่ถูกพ่อตบตีแทบทุกวัน ตั้งแต่ฉันจำความได้ ไม่เคยเห็นวันไหนที่แม่ไม่ร้องไห้เลย"
เย็นตอบยายฟักพร้อมๆ กับน้ำตาที่เอ่อคลอ ทำให้ยายฟักมองสาวรุ่นด้วยความเวทนา แต่ก็ยังตะล่อมเย็นต่อ
"ผู้ชายที่เขาไม่ตบตีเมียก็มี"
"ใครล่ะจ๊ะ ผู้ชายแถวบ้านฉันเป็นอย่างนั้นหมด กินเหล้า เล่นถั่วเล่นโป แล้วกลับมาตบตีลูกเมีย" เย็นตอบพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลรินด้วยความทุกข์
ยายฟักนิ่งอึ้งอยู่อึดใจก่อนจะตัดสินใจโพล่งออกไป
"แต่ท่านเจ้าคุณท่านไม่เคยทำอย่างนั้น ท่านรักคุณหญิงของท่านมาก"
"รักมากแล้วทำไมมีเมียหลายคน ท่านไม่ตบตีคุณหญิง แต่ท่านก็ทำให้คุณหญิงเสียใจบ่อยๆ ฉันรู้นะยาย"
คำตอบแกมคำถามของเย็นทำให้ยายฟักถึงกับอึ้งเพราะไม่สามารถตอบเย็นได้
เวลาผ่านไปจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ที่บ้านของพ่อยิ่งและแม่ล้วน เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ พ่อยิ่งก็ไม่หายจากอาการปวดท้อง แม่ล้วนจึงต้องวานให้ลุงสมซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับยืนที่เป็นพี่ชายของเย็นพายเรือเอาข้าวไปส่งให้ท่านเจ้าคุณสีหโยธินที่บ้าน เย็นรีบวิ่งไปพบพี่ชายทันทีที่รู้ข่าวว่ายืนเอาข้าวมาส่งแทนพ่อกับแม่ เพราะพ่อไม่สบายมาก พร้อมกับถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
"งั้น ก็ยังไถ่ตัวฉันไม่ได้ใช่ไหม"
ยืนพยักหน้ารับ เพราะพูดไม่ออกด้วยความสงสารน้องสาวคนเดียวของเขา หนุ่มลูกทุ่งอึ้งอยู่อึดใจใหญ่ก่อนจะบอกน้องด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
"แต่เอ็งอยู่ที่นี่น่าจะดีกว่าอยู่บ้านนะ พ่อบอกว่าเอ็งจะมีวาสนา เพราะตอนพาเอ็งมา เจ้าคุณท่านมองเอ็งบ่อยๆ"
เย็นจ้องหน้าพี่ชายตาค้างพร้อมๆ กับภาพของท่านเจ้าคุณที่คอยมองเธออย่างใส่ใจผ่านแว่บเข้ามาในความคิด เธอนิ่งไปจนยืนสงสัย
"เย็น! เย็น เป็นอะไรไปหรือเปล่า"
เย็นเกือบสะดุ้งเธอรีบปฏิเสธ ว่าไม่ได้เป็นอะไรนอกจากคิดถึงพ่อกับแม่และอยากกลับไปอยู่บ้าน แม้จะอดอยากยากจน แต่ก็มีความสุขไปตามประสา ยืนอึ้งไปอีกครั้งด้วยความสงสารน้อง และให้คำมั่นสัญญาก่อนที่จะลาเย็นกลับไปว่า จะพยายามเก็บเงินมาไถ่ตัวเย็นให้ได้ไม่ว่าจะนานแค่ไหน

นับวันท่านเจ้าคุณก็มีความพึงพอใจในตัวเย็นมากขึ้นทุกที เพราะด้วยความกล้าของเย็นที่กล้าต่อปากต่อคำกับท่านด้วยความซื่อและพูดจาตรงไปตรงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโอกาสได้แตะเนื้อต้องตัวอย่างบังเอิญและเย็นมีอาการตระหนกตกประหม่าก็ยิ่งทำให้ท่านเจ้าคุณมีความต้องการในตัวเย็นมากขึ้น จนท่านเจ้าคุณเก็บความต้องการนั้นไว้ไม่ได้ต้องเอ่ยปากขอเย็นกับคุณหญิงแย้มในคืนวันหนึ่งที่ท่านเจ้าคุณมานอนค้างที่เรือนหลังใหญ่
ทำให้คุณหญิงแย้มถอนใจอย่างโล่งอกแม้ว่าจะสะเทือนใจกับคำขอนั้นมิใช่น้อย เพราะคุณหญิงแย้มไม่ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากยกเย็นให้ท่านเจ้าคุณเอง ด้วยว่าคุณหญิงเองก็กำลังคิดจะเอ่ยปากยกเย็นให้ท่านเจ้าคุณตามที่คุณหญิงยิ้มและยายฟักแนะนำ แกมเคียวเข็ญให้ทำเสียโดยเร็วก่อนที่บุญมีกับคุณสาลี่จะท้อง โดยเฉพาะยายฟักนั้นรับรองเย็นแล้วรับรองอีกว่า
"นังเย็นมันไม่เหมือนคุณสาลี่หรอกเจ้าค่ะ"
"ตอนแรกๆ แม่สาลี่ก็ดี" คุณหญิงแย้มบอกยายฟักอย่างลังเล
"คุณสาลี่เธอไม่ใช่บ่าวเหมือนนังเย็น มันทั้งซื่อสัตย์และกตัญญู แล้วก็รักคุณหญิงมาก บ่าวเชื่อว่าบ่าวมองคนไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ"
ยายฟักรับรองด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อีกทั้งคุณหญิงยิ้มก็เคยได้มาดูตัวเย็นแล้วและคุณหญิงยิ้มก็สนับสนุนและลงความเห็นว่าเย็นเหมาะสมเพราะดูท่าซื่อสัตย์และคงไม่ทรยศคุณหญิงแย้มแน่นอน ทำให้คุณหญิงแย้มตกลงใจที่จะบอกยกเย็นให้ท่านเจ้าคุณ แต่ท่านก็ชิงบอกมาเสียก่อน ทำให้คุณหญิงดีใจที่เป็นความประสงค์ของท่านเจ้าคุณเองมิใช่เธอเจ้ากี้เจ้าการหาเมียน้อยให้ท่าน เมื่อท่านเจ้าคุณเอ่ยปากขอเย็น คุณหญิงจึงกล้ำกลืนความเศร้าใจเสียใจไว้แล้วฝืนยิ้มให้ท่านเจ้าคุณก่อนจะกล่าวตอบ
"อะไรที่ทำให้คุณพี่มีความสุข อิฉันให้ได้ทุกอย่างค่ะ"
ท่านเจ้าคุณรวบร่างอันแบบบางของคุณหญิงแย้มมากอดไว้อย่างดีใจแล้วพร่ำขอบใจก่อนที่จะประคองพาคุณหญิงไปที่เตียงนอน
เช้าวันรุ่งขึ้น คุณหญิงแย้มเรียกยายฟักไปกระซิบบอกเรื่องที่ท่านเจ้าคุณขอเย็น แล้วก็สั่งให้ยายฟักพาบ่าวไพร่ไปจัดการเปิดเรือนกลางที่อยู่ถัดจากเรือนหลังใหญ่และทำความสะอาดให้เรียบร้อย
จากนั้นคุณหญิงก็สั่งให้บุ้งไปตามแม่ชะม้อยช่างตัดเสื้อประจำท่านเข้ามาพบ จากนั้นคุณหญิงก็เอาผ้าลูกไม้สีสวยๆ มากมายหลายชิ้นออกมาส่งให้แม่ชะม้อยดูพร้อมกับถามว่าสวยไหม แม่ชะม้อยรับผ้าลูกไม้มาคลี่ดูพร้อมกับตอบ
"งามเจ้าคะ งามมาก คุณหญิงจะใช้เมื่อไหร่เจ้าคะ"
"ข้าไม่ได้ใช้หรอก"
คุณหญิงตอบยิ้มๆ ทำให้ช่างตัดเสื้อประจำตัวคุณหญิงมองหน้าคุณหญิงอย่างงุนงง คุณหญิงจึงเรียกแม่ชะม้อยให้กระเถิบเข้าไปใกล้ๆ แล้วกระซิบสั่งความพร้อมกับพยักพเยิดไปทางเย็นที่เดินขึ้นเรือนมาเพื่อคอยรับใช้คุณหญิงพอดี
"จำไว้ว่าอย่าให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูใครทีเดียวนะ" คุณหญิงกำชับช่างเสื้อ
คุณสาลี่และบุญมี ต่างก็พากันสงสัยว่าทางเรือนใหญ่จะมีงานอะไร เพราะคุณหญิงสั่งเปิดเรือนกลาง แถมยังมีช่างเสื้อประจำตัวเข้ามารับผ้าไปตัดเสื้อใหม่อีกด้วย คุณสาลี่ใช้นังแอบบ่าวคนสนิทมาสืบถามแต่ก็ไม่ได้เรื่อง เพราะแม้แต่บ่าวทางเรือนใหญ่เองก็ยังไม่รู้ว่าคุณหญิงสั่งทำความสะอาดเรือนกลางทำไม และเรียกช่างตัดเสื้อมาทำอะไร คุณสาลี่อดรนทนความอยากรู้ของตนเองไม่ไหวจึงเดินมาที่เรือนหลังใหญ่และถามคุณหญิงแย้มตรงๆ หลังจากที่ถามช่างตัดเสื้อที่สวนกันที่บันไดแล้วแต่ไม่ได้ความ
"อิฉันอยากรู้ว่าจะมีงานอะไร พวกบ่าวไพร่ถึงได้จัดเรือนกันโกลาหลไปหมด"
คุณหญิงแย้มยิ้มเหมือนจะเยาะก่อนจะตอบสั้นๆ "เอาไว้แม่สาลี่ก็จะรู้เอง"
"แต่อิฉันอยากรู้เดี๋ยวนี้ อิฉันเป็นเมียของท่านเจ้าคุณเหมือนกัน จะจัดงานอะไรในบ้านอิฉันย่อมมีสิทธิ์ที่จะรู้" คุณสาลี่ขึ้นเสียงด้วยสีหน้าบึ้งตึง
"แต่ฉันไม่มีสิทธิ์จะบอก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านเจ้าคุณ"
คุณสาลี่เบิกตากว้างก่อนจะละล่ำละลักถามด้วยความอยากรู้
"เรื่องส่วนตัวอะไรคะ"
"ถ้าแม่สาลี่อยากรู้จริงๆ ก็คงต้องไปถามท่านเจ้าของงานเอาเอง"
กล่าวจบคุณหญิงก็เดินหันหลังกลับเข้าเรือนไปอย่างไม่สนใจทำให้คุณสาลี่แทบจะเต้นด้วยความโกรธ เธอตะโกนไล่หลังคุณหญิงไปอย่างแค้นๆ
"อย่าหมายว่าจะปิดอิฉันได้เลย อิฉันจะต้องรู้ให้ได้"
เรื่องเปิดเรือนกลางทำความสะอาด และเรียกช่างเสื้อประจำตัวเข้ามาซุบซิบสั่งความนั้น ทำความสงสัยให้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่เย็น แต่ทุกคนก็ไม่ได้รับความกระจ่างเหมือนกันหมดทุกคนไม่เว้นแม้แต่เย็น ที่เฝ้าถามยายฟักว่าเพราะอะไรทั้งคุณหญิงแย้ม ทั้งยายฟักและช่างเสื้อของคุณหญิงถึงได้มองเธอแปลกๆ แต่ยายฟักก็บอกปัดไปว่า จะบอกให้เย็นรู้ในวันหลัง และพอเย็นเซ้าซี้ถาม
ยายฟักก็ตัดบทว่า "พอที พอที ลูกอีช่างซัก"
แล้วยายฟักก็ลุกขึ้นเดินหนีลงเรือนไป ทิ้งให้เย็นและละออมองตามหลังแกไปอย่างงงๆ
เย็นวันต่อมาซึ่งเป็นวันที่ท่านเจ้าคุณสีหโยธินจะต้องไปค้างที่เรือนเล็กของคุณสาลี่ แต่คุณหญิงแย้มได้เชิญคุณหญิงยิ้มและท่านเจ้าคุณอภัยผู้เป็นพี่เขยมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน ทำให้ท่านเจ้าคุณต้องอยู่ร่วมรับประทานอาหารเย็นและพูดคุยกับท่านเจ้าคุณอภัยและคุณหญิงยิ้มผู้เป็นพี่เมีย
คุณสาลี่นั้นโกรธจัดจนกินข้าวปลาไม่ลงเมื่อรู้ว่าท่านเจ้าคุณไม่มาที่เรือนเล็ก ไม่ว่านังแอบจะเซ้าซี้ให้กินอาหารอย่างไร คุณสาลี่ก็ไม่ยอมกิน เธอตวาดใส่หน้านังแอบที่มาเซ้าซี้ว่า
"เอ๊ะ! ก็กูบอกแล้วไงว่า กูไม่กิน! ถ้าคุณพี่ไม่มา กูจะไม่กิน"
"วันนี้คงจะมาไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เพราะเจ้าคุณอภัยกับคุณหญิงยิ้มมารับประทานข้าวด้วย" นังแอบรายงาน
"นังแย้มกับนังยิ้มมันสมคบกันชวนเจ้าคุณอภัยมา ท่านเจ้าคุณจะได้มาหาข้าไม่ได้ ข้ารู้นะ นังแอบ คุณพี่ก็อยากมาหาข้าแต่ติดที่นังยิ้มกับผัวมัน"
คุณสาลี่บอกนังแอบอย่างที่คิดเข้าข้างตนเอง ทำให้นังแอบถึงกับน้ำตาคลอด้วยความสงสารนาย แต่ในขณะที่นังแอบแสนจะสงสารคุณสาลี่ บุญมีกลับบอกนังป่วนอย่างสะอกสะใจเป็นยิ่งนักว่า "สมน้ำหน้า! ข้าละสะใจนัก!"
นังป่วนเหลือบตามองบุญมีแล้วก็กล่าวออกมาตามความเป็นจริง
"ท่านไม่มาหาคุณสาลี่ ก็คือไม่มาหาคุณด้วย คุณก็อยากให้ท่านมาเหมือนกัน ใช้ความดีซิเจ้าคะ ใช้ความดีเอาชนะใจ"
บุญมีถึงกับหมดความอดทนตวาดออกมาด้วยหงุดหงิดและโมโห
"พอที! มึงเห็นว่ากูชั่วนักหรือไร อีป่วน! ไปเลย! จะไปบวชที่วัดไหนก็ไปไป๊ นังชีป่วน มึงอยู่ด้วยแล้วเหมือนกู
ชั่วช้าเสียเหลือเกิน ไป๊"
-
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/lakorn/

ไม่มีความคิดเห็น: