นางทาส ตอนที่ 4

คุณสาลี่ชวนนังแอบและบ่าวในเรือนออกไปเดินเล่นรอบๆ บริเวณบ้าน เพราะต้องการที่จะอวดศักดาบารมีของตนเอง แต่ก็ไม่พบใคร คุณสาลี่จึงเดินเรื่อยไปจนถึงโรงครัวที่บรรดาทาสทั้งหลายกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่สองสามวง รวมทั้งยายฟัก ละออ และเย็นด้วย
คุณสาลี่เดินเข้าไปปรายตามองแล้วส่งเสียงเรียกยายใบซึ่งเป็นแม่ครัวของบ้านและว่ายายใบว่าทำกับข้าวรสชาติไม่พอดี บางอย่างก็เค็มไปบางอย่างก็จืดไป โดยมีนังแอบคอยเป็นลูกคู่ สอดขึ้นว่ายายใบคงไม่ตั้งใจทำอาหารให้คุณสาลี่ซึ่งอยู่ทางเรือนเล็ก ยายใบนั้นได้แต่อ้ำอึ้งตอบคุณสาลี่ไม่ถูก ยายฟักทนไม่ได้จึงเงยหน้าขึ้นตอบแทน
"ไม่ว่าจะเป็นสำรับที่เรือนใหญ่หรือที่เรือนเล็ก นังใบมันก็ทำพร้อมๆ กันเจ้าค่ะ"
คุณสาลี่หันขวับไปจ้องหน้ายายฟักและตวาดเสียงเขียวทันทีที่ยายฟักตอบจบ
"ข้าไม่ได้ถามเอ็ง นังฟัก ไหน เห็นเขาโจทก์กันว่า เอ็งกำลังขัดสีฉวีวรรณนังเย็นอยู่รึ"
เย็นเงยหน้าขึ้นมองหน้าคุณสาลี่แว่บหนึ่งก่อนที่จะหลบตาลงมองพื้นอย่างเดิม ในขณะที่ยายฟักตอบด้วยน้ำเสียงเนิบๆ ไม่แสดงบ่งบอกถึงอารมณ์
"เย็นมันเริ่มเป็นสาวแล้วเจ้าค่ะ"
คุณสาลี่ยิ้มเยาะก่อนจะว่ากระแทก "ไม่ใช่ว่าเอ็งกำลังคิดอะไรอยู่ในใจหรอกนะ"
ยายฟักนั่งก้มหน้านิ่งเงียบไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคุณสาลี่ที่ยังคงจ้องมองเย็นด้วยสายตาที่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อและกล่าวต่อกับเย็นโดยตรง
"นังบ้านนอก ต่อให้ขัดสีฉวีวรรณลงขมิ้นดินสอพองขนาดไหน มันก็ยังเป็นนังบ้านนอกเหม็นกลิ่นโคลนสาปควายอยู่ดี ฉะนั้นอย่าสะเออะหวังสูง"
เย็นได้แต่นั่งนิ่งกัดฟันข่มอารมณ์ ในขณะที่คุณสาลี่ปรายตามองเย็นอย่างเยาะหยันอีกครั้งก่อนจะออกเดิน รวมทั้งบรรดาบ่าวไพร่ที่ยกขบวนตามคุณสาลี่มา
ขณะที่เดินผ่านเย็นไปนั้น นังแอบสะบัดเสียงใส่หน้าเย็นอย่างเย้ยๆ ว่า
"ได้ยินแล้วใช่ไหม นังบ้านนอก"
และนังม้วนที่เดินตามหลังนังแอบก็ทำหน้าทำตาเหมือนกับว่าเหม็นอะไรบางอย่างพร้อมกับว่า
"เหม็นจัง!"
นังพิศรีบส่งเสียงถามเป็นลูกคู่ทันที "เหม็นอะไร"
แล้วทั้งนังม้วนและนังพิศก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหม็นกลิ่นโคลนสาปควาย"
จากนั้นก็เดินหัวเราะกันคิกคักออกไป โดยไม่ทันมองว่าเย็นยกชามข้าวขว้างตามหลังไปอย่างแรงโดยที่ยายฟักร้องห้ามไม่ทัน และชามข้าวนั้นก็โดนหัวนังพิศอย่างจังท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่นั่งอยู่ที่โรงครัว
คุณสาลี่เข้าข้างบ่าวไพร่ของตนเองอย่างเต็มที่ รีบพาบ่าวทั้ง 3 คนตรงไปฟ้องคุณหญิงแย้มที่เรือนหลังใหญ่ทันที คุณหญิงแย้มลอบถอนใจอย่างเบื่อหน่าย แต่ก็จำต้องให้บ่าวไปตามเย็น ลออ และยายฟักมาชำระคดีความด้วยความยุติธรรม เพราะคุณหญิงสั่งให้ยายฟักเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง ซึ่งยายฟักก็เล่าไปตามความเป็นจริง ทำให้นังแอบ นังม้วน และนังพิศถึงกับสะดุ้งเฮือก
ส่วนคุณสาลี่นั้นชี้หน้ายายฟักอย่างไม่พอใจและว่ายายฟักเข้าข้างเย็น ในขณะที่คุณหญิงแย้มมองหน้าทุกคนแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เรื่องนี้ถือว่าจบกันไป"
"คุณพี่" คุณสาลี่ร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น
"คนของเธอมาด่าคนของฉัน คนของฉันเอาจานข้าวขว้างคนของเธอ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน"
"คุณพี่เข้าข้างอีเย็น"
"เธอก็เข้าข้างนังแอบ นังม้วน นังพิศ"
คุณสาลี่สะบัดหน้าลุกขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง เธอสะบัดเสียงใส่หน้าคุณหญิงแย้มอย่างไม่เกรงใจ "อิฉันผิดหวังในตัวของคุณพี่มาก อีแอบ อีม้วน อีพิศ กลับ"
หลังจากที่คุณสาลี่พาบ่าวไพร่กลับไปแล้ว เย็นคลานเข้าไปกราบแทบเท้าคุณหญิงแย้มด้วยความสำนึกในบุญคุณ คุณหญิงแย้มมองเย็นอย่างปรานีก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเรียกให้เย็นตามเข้าไปด้วย
คุณหญิงแย้มเรียกเย็นให้เข้าไปนั่งใกล้ๆ เธอแล้วสั่งสอนเย็นด้วยเมตตา
"ต่อไปหากจะมีเรื่องกับใคร ขอให้จำใส่ใจไว้ว่าที่นี่ไม่เหมือนบ้านของเอ็ง อยู่ที่บ้านเอ็งจะทำนักเลงแค่ไหนก็ได้แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่แล้วเอ็งต้องเจียมเนื้อเจียมตัวสงบปากสงบคำ เอ็งรู้ใช่ไหมว่าคุณสาลี่เขาเป็นใคร"
"เจ้าค่ะ"
"ถูกท่านเจ้าคุณตำหนิแล้วครั้งหนึ่งยังไม่เข็ดหลาบอีกหรือ"
เย็นนั่งก้มหน้านิ่งน้ำตาหยดเป็นสาย คุณหญิงจึงถามอย่างสงสัยว่าเย็นร้องไห้ทำไม เย็นตอบด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
"บ่าวเสียใจที่ทำให้คุณหญิงต้องเดือดเนื้อร้อนใจเจ้าค่ะ"
คุณหญิงแย้มคลี่ยิ้มอย่างเมตตาก่อนจะสอนต่อ
"ในเมื่อรู้แล้วก็อย่าทำอีก เข้าใจไหม"
เย็นคลานเข้าไปนั่งจนชิดแทบเท้าคุณหญิงแล้วค่อยๆ ยื่นมือไปจับเท้าคุณหญิงแย้มไว้แล้วสะอื้นออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ ทำให้คุณหญิงเวทนาเย็นจนต้องยกมือขึ้นลูบหัวเย็นเบาๆ ด้วยความรักและสงสาร

ท่านเจ้าคุณสีหโยธินแวะไปเยี่ยมเยียนพูดคุยกับคุณหญิงยิ้มและท่านเจ้าคุณอภัยที่บ้านเรื่องการเลิกทาส ซึ่งเป็นพระราชดำริของพระพุทธเจ้าหลวงแล้วก็รีบกลับบ้าน ซึ่งท่านเจ้าคุณไม่ขึ้นไปยังเรือนใหญ่ แต่กลับเอาเอกสารส่งให้ทนายเอาไปเก็บแล้วเดินดุ่มๆ ไปยังเรือนเล็กของคุณสาลี่และแวะเข้าห้องบุญมีเลยทีเดียว ทำให้คุณหญิงแย้มที่ยืนมองดูอยู่ที่หน้าต่างห้องหน้าหมองลงด้วยความสะเทือนใจ
ส่วนคุณสาลี่เองก็หงุดหงิดและหมั่นไส้บุญมีมิใช่น้อย เพราะนังแอบเข้ามารายงานให้รู้ว่าบุญมีทำมารยาสาไถยประจบประแจงท่านเจ้าคุณอย่างไรบ้าง
ท่านเจ้าคุณขลุกอยู่กับบุญมีพักใหญ่ก็เดินหน้าเครียดออกมาหาคุณสาลี่และสอบถามเรื่องที่บ่าวไพร่ของคุณสาลี่ไปมีเรื่องกับเย็น คุณสาลี่ปรายตาไปมองบุญมีด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น ก่อนที่จะทำหน้าเศร้าบอกท่านเจ้าคุณ
"ความจริงอิฉันไม่อยากจะให้คุณพี่ต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องพวกนี้เลย แม่บุญมีไปบอกคุณพี่ทำไมก็ไม่รู้"
"อิฉันเห็นคุณพี่สาลี่เสียใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เลยอดพูดไม่ได้น่ะเจ้าค่ะ"
บุญมีบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงประจบคุณสาลี่อย่างเต็มที่ ทำให้คุณสาลี่ยิ้มออกก่อนที่แกล้งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ราวกับว่าตัวเธอเองไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเรื่องนี้
"คุณหญิงแย้มท่านก็ต้องเข้าข้างคนของท่านเป็นธรรมดาน่ะแม่บุญมี"
"ใช่เจ้าค่ะ แต่ที่นี้นังเย็นน่ะซิคะ ถ้าเป็นอย่างนี้บ่อยๆ มันจะได้ใจ ขนาดถูกคณพี่ตำหนิไปวันนั้น ยังไม่เข็ด" บุญมีว่า
คุณสาลี่ชำเลืองมองท่านเจ้าคุณแว่บหนึ่งก่อนจะทำเสียงดุบุญมี
"ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร"
"แต่มันไม่ยุติธรรมกับคุณพี่นะคะ"
บุญมีค้านด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจสาลี่อย่างเต็มที่ ในขณะที่ท่านเจ้าคุณลุกขึ้นเดินออกไปจากเรือนคุณสาลี่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ซึ่งพอท่านเจ้าคุณคล้อยหลังไป บุญมีก็หันมามองหน้าคุณสาลี่พร้อมรีบบอกคุณสาลี่เหมือนจะลำเลิกบุญคุณกลายๆ
"อิฉันน่ะช่วยพูดให้คุณพี่แล้วนะคะ"
คุณสาลี่ค้อนขวับก่อนตอบ "อ๋อ ถึงหล่อนไม่พูด ฉันก็ต้องพูดเองอยู่แล้ว"
"แต่อิฉันพูดขึ้นก่อน ก็ทำให้มีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ"
คุณสาลี่จ้องหน้าบุญมีแล้วเน้นเสียงตาวาวขึ้นอย่างโกรธๆ
"อย่าสำคัญตัวผิด แค่หล่อนเสแสร้งแกล้งท้อง อย่านึกว่า คุณพี่จะยกย่องรักใคร่มากกว่าใคร ไม่เชื่อก็ลองแท้งออกมาซิ จะได้เห็นว่าพอหมดลูก หล่อนก็แค่เมียน้อยธรรมดาคนหนึ่ง"
บุญมีกรีดเสียงหัวเราะก่อนจะเชิดหน้าตอบอย่างเยาะๆ
"แหม ไม่ต้องแกล้งแท้ง อิฉันก็ทราบค่ะ ดูจากคุณพี่นี่ไงคะ"
"อีบุญมี!" คุณสาลี่ตวาดเสียงเขียว
"ขอประทานโทษค่ะที่อิฉันล่วงเกินคุณพี่ แต่คุณพี่ว่าอิฉันก่อน ยังไงเราก็เป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่ แทนที่จะทะเลาะกันเอง เรามาร่วมมือกันกำจัดศัตรูไม่ดีกว่าหรือคะ"
บุญมีตอบยิ้มๆ ในขณะที่ในใจนั้นต่อด้วยประโยคที่ว่า
"แล้วค่อยกำจัดคุณพี่ออกไปที่หลัง"
ส่วนคุณสาลี่เองก็ยิ้มให้บุญมีอย่างมีเลศนัยก่อนจะตอบดังๆ ว่า "ดี!"
แต่ประโยคที่ต่ออยู่ในใจของคุณสาลี่ก็คือ "แล้วหล่อนก็คือคนต่อไป นังงูพิษ!"
ท่านเจ้าคุณกลับมาถึงเรือนใหญ่ก็ตรงเข้าไปถามคุณหญิงแย้มถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทันที คุณหญิงนิ่งอึ้งไปอึดใจหนึ่งก่อนจะย้อนถามท่านเจ้าคุณด้วยสีหน้าราบเรียบ
"แล้วคุณพี่จะให้อิฉันทำอย่างไรหรือคะ จะให้เฆี่ยนตีเหมือนทาสบ้านอื่น เราก็ไม่เคยมีธรรมเนียม"
"แม่แย้ม"
"อิฉันมั่นใจว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย"
"ฉันเชื่อแม่แย้ม แต่ฉันก็ไม่ชอบใจที่เย็นมันดื้อกับฉัน"
คุณหญิงแย้มจ้องหน้าท่านเจ้าคุณอยู่อึดใจใหญ่จนท่านเจ้าคุณร้อนตัว ถามว่าคุณหญิงมองหน้าท่านทำไม คุณหญิงแย้มจึงตอบเรียบๆ
"เย็นไม่ได้ดื้ออะไรกับใครหรอกค่ะ แล้วมันก็เป็นบ่าว คุณพี่อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลยค่ะ ต่อไปนี้อิฉันจะคุมมันไม่ให้ไปมีเรื่องกับบ่าวเรือนโน้นอีก แต่คุณพี่ก็ต้องบอกแม่สาลี่ด้วยว่าให้ดูคนของเขาให้ดีเหมือนกัน"
ท่านเจ้าคุณมองหน้าคุณหญิงก่อนจะถามเสียงอ่อนๆ "แม่แย้มโกรธฉันหรือ"
"อิฉันไม่กล้าคิดเช่นนั้นหรอกค่ะ เรื่องบ่าวกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากเจ้านายไม่เข้าไปยุ่งด้วย ก็ไม่มีเรื่องอะไร คุณพี่รับประทานของว่างมาจากเรือนโน้นหรือยังคะ"
"ยังเลย ว่าจะมากินกับแม่แย้มนี่แหละ" ท่านเจ้าคุณรีบตอบแบบเอาประโยชน์เข้าหาตัว
คุณหญิงแย้มค้อนให้อย่างรู้ทันและว่า "ไม่ใช่เพราะจะมาตำหนิอิฉันว่าเข้าข้างนังเย็นมันหรอกหรือคะ"
จากนั้นคุณหญิงก็รีบลุกไปเรียกบ่าวไพร่ให้ยกของว่างมาให้ท่านเจ้าคุณรับประทาน

หลายวันต่อมา บุญมีมีรอบเดือนมาตามปกติ เธอจึงถือโอกาสให้บ่าววิ่งไปบอกคุณสาลี่ว่าเธอแท้ง และพอคุณสาลี่ทราบเรื่องเพียงครู่เดียว ทุกคนที่บ้านของท่านเจ้าคุณสีหโยธินก็ทราบเรื่องบุญมีแท้งบุตรกันหมด
คุณหญิงแย้มนั้นให้บ่าวเดินไปถามไถ่อาการของบุญมีอย่างหวังดี แต่กลับถูกคุณสาลี่ว่ากระทบกระแทกฝากมาอย่างน่าเจ็บใจ ทำให้คุณยิ้มซึ่งมาเยี่ยมคุณหญิงแย้มพอดีได้ยินบ่าวไพร่รายงานเรื่องที่คุณสาลี่ว่าฝากมา ถึงกับโกรธแทนน้องสาว คุณยิ้มมองหน้าคุณหญิงแย้มแล้วว่า
"มันจะมากไปแล้ว แม่แย้มไม่ควรอ่อนข้อให้แม่สาลี่นะ ดูรึ! อุตส่าห์ให้คนไปถามเพราะเป็นห่วง กลับกระทบกระแทกฝากบ่าวมา" คุณยิ้มโกรธแทนน้องสาว
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่" คุณหญิงบอกพี่สาวด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ
"ไม่เป็นไรไม่ได้ ตัวแม่สาลี่เองก็ได้ดิบได้ดีเพราะใคร ถ้าแม่แย้มไม่พามาให้ท่านเจ้าคุณ ก็ไม่มีทางมาชูคอเป็นกิ่งก่าได้ทองอยู่อย่างนี้หรอก แหม! ยิ่งพูดยิ่งเจ็บใจ"
ระหว่างที่คุณยิ้มกล่าวเสียงดังด้วยความโกรธนั้น บ่าวทุกคนต่างก็พากันก้มหน้านิ่งยกเว้นแต่เย็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่แอบมองไปทางคุณหญิงแย้มแว่บหนึ่งด้วยความสงสัย
ท่านเจ้าคุณสีหโยธินเศร้าเสียใจมากเมื่อรู้เรื่องว่าบุญมีแท้งลูก ทำให้คุณสาลี่ถึงกับครุ่นคิดว่าทำอย่างไรเธอถึงจะมีลูกให้ท่านเจ้าคุณได้ เพราะหากว่าเธอมีลูกให้ท่านเจ้าคุณได้เธอก็จะได้เป็นใหญ่และมีความสำคัญเทียบเท่าคุณหญิงแย้มอย่างแน่นอน
นังแอบบ่าวเจ้าความคิดจึงเสนอคุณสาลี่ว่าต้องกินยาหม้อบำรุงครรภ์ เพราะนังแอบเคยเห็นคนที่มีลูกยากมากคนหนึ่งกินยาหม้อที่ว่านี้อยู่พักใหญ่แล้วท้องได้ลูกสมใจ คุณสาลี่จึงใช้ให้นังแอบไปหายาหม้อบำรุงครรภ์ที่ว่านั้นมาให้เธอกินบ้าง ด้วยความหวังว่าเธอจะตั้งท้องมีลูกแบบคนอื่นบ้าง
นังแอบออกไปซื้อหายาหม้อบำรุงครรภ์ให้คุณสาลี่แต่เช้ามืด พอสายๆ ก็เดินกลับเข้ามาผ่านทางโรงครัว บุ้งเห็นนังแอบเดินถือห่อยากลับเข้ามาก็ปราดเข้าไปดักหน้าถามด้วยความสงสัยแกมหมั่นไส้ว่านังแอบไปไหนมา แต่นังแอบไม่ยอมตอบ บุ้งจึงไม่ยอมหลีกทางให้นังแอบเดินกลับเรือน
ทั้งสองเถียงกันไปเถียงกันมาอยู่ครู่ใหญ่ก็ลงไม้ลงมือตบกันอย่างชนิดใครห้ามก็ไม่ฟัง จนกระทั่งยายฟักเดินผ่านมาเห็นจึงเอาถังตักน้ำสาดโครมเข้าให้ ทั้งสองจึงแยกออกจากกันในสภาพเปียกมะล่อกมะแล่ก
และหลังจากนั้นเพียงครู่เดียว คุณสาลี่พร้อมบ่าวคนสนิทก็รีบแล่นมาถึงเรือนของคุณหญิงแย้ม โดยคุณสาลี่บีบน้ำตาร้องไห้ฟ้องคุณหญิงและท่านเจ้าคุณอย่างน่าสงสาร
"อิฉันมากราบขอความเป็นธรรมจากคุณพี่ทั้งสองค่ะ คนของอิฉันถูกรุมรังแก"
ว่าแล้วคุณสาลี่ก็หันไปทางนังแอบ และสั่งให้นังแอบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น นังแอบจึงคลานเข้ามาหมอบตรงหน้าท่านเจ้าคุณแล้วเริ่มเรื่องด้วยสีหน้าเศร้าสลด
"บ่าวไม่เคยคิดร้ายกับใครเลยเจ้าค่ะ คุณท่านสั่งสอนทุกวันว่าให้เจียมเนื้อเจียมตัว อย่าไปเกะกะระรานเขา เพราะท่านเจ้าคุณไม่ชอบให้บ่าวไพร่ทะเลาะกัน บ่าวน่ะ"
ท่านเจ้าคุณถอนใจอย่างรำคาญก่อนจะตัดบท "เมื่อไหร่เอ็งจะเข้าเรื่องเสียที นังแอบ ข้าฟังมาตั้งนานแล้ว"
นังแอบตีหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว "บ่าวกำลังจะเข้าเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ บ่าวไปเอายาบำรุงมาให้คุณท่าน"
"แม่สาลี่เป็นอะไร" ท่านเจ้าคุณหันไปถามคุณสาลี่อย่างสงสัย
"อิฉันจะเอามากินบำรุงครรภ์กับแม่บุญมีค่ะ เราสองคนรู้ว่าคุณพี่อยากได้ลูกมาก จึงพยายามทุกอย่างเพื่อให้คุณพี่ได้สมความปรารถนาค่ะ"
พอท่านเจ้าคุณได้ฟังคำตอบของคุณสาลี่ก็มีสีหน้าพออกพอใจขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณหญิงแย้มได้แต่ลอบถอนใจอย่างกังวล ในขณะที่คุณสาลี่หันไปบอกให้นังแอบเล่าเรื่องต่อจนจบ
ท่านเจ้าคุณจึงหันไปถามบุ้งว่าเพราะอะไรจึงไปหาเรื่องนังแอบ ซึ่งบุ้งก็เงยหน้าขึ้นตอบตรงๆ อย่างอาจหาญว่าที่เธอทำลงไปก็เพราะหมั่นไส้นังแอบ
คุณหญิงแย้มจึงถามขึ้นบ้างว่า "เอ็งยอมรับว่าเอ็งผิดใช่ไหม"
"บ่าวผิดครึ่งเดียวเจ้าค่ะ นังแอบผิดอีกครึ่ง" บุ้งตอบ
คุณสาลี่ค้อนบุ้งจนตาแทบกลับก่อนจะว่า "เรื่องนี้เอาไปเล่าให้ใครฟัง เขาก็ตัดสินว่าเอ็งผิดทั้งนั้น เพราะเอ็งเป็นคนเริ่มก่อน"
กล่าวจบคุณสาลี่ก็หันไปทางยายฟักและว่า "ฟัก เอ็งน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว กราบเรียนคุณหญิงท่านไปตามความจริงที่เอ็งเห็นซิว่า ใครผิด"
ยายฟักก้มหน้านิ่งอึ้งอยู่อึดใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ "อิฉันมาเห็นตอนที่มันต่างคนต่างสู้กันเจ้าค่ะ"
คุณสาลี่คอแข็งขึ้นอย่างฉับพลันและว่ายายฟักเข้าข้างบุ้ง ท่านเจ้าคุณมองหน้าคุณสาลี่และคุณหญิงแย้มก่อนจะตัดสินว่า
"เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ข้าจะสั่งให้โบยทั้ง 2 คน"
ทั้งนังแอบและบุ้งสะดุ้งเฮือกเมื่อท่านเจ้าคุณกล่าวจบและสั่งให้คนมาเอาตัวนังแอบและบุ้งไปโบยตาม
หลังจากที่ท่านเจ้าคุณออกไปกรมแล้วและคุณสาลี่กับบ่าวไพร่กลับไปเรือนตนเองเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงแย้มก็เรียกยายฟักเข้ามาสั่งว่า พรุ่งนี้เธอจะใส่บาตรพระ 9 รูป ให้ยายฟักช่วยจัดเตรียมข้าวปลาอาหารให้ด้วย เพราะยายใบคงจะวุ่นวายอยู่กับการดูแลบุ้ง พร้อมกับสั่งให้ยายฟักบอกให้เย็นตื่นแต่เช้ามาช่วยเธอใส่บาตรด้วย
เย็นวันนั้น ท่านเจ้าคุณไปนอนค้างที่เรือนคุณสาลี่ และบอกให้คุณสาลี่ปลุกท่านแต่เช้า เพราะท่านต้องไปใส่บาตรกับคุณหญิงแย้มแต่เช้า คุณสาลี่เม้มปากตาวาวแล้วก็แกล้งบอกท่านเจ้าคุณว่า เธอก็ตั้งใจจะทำบุญเหมือนกัน แต่จะไปเลี้ยงเพลพระที่วัด โดยจะเลี้ยงทั้งวัดเลยทีเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น เย็นตื่นไปช่วยคุณหญิงแย้มใส่บาตรแต่เช้า และพอท่านเจ้าคุณเดินมาถึง คุณหญิงก็สั่งให้เย็นอยู่ช่วยต่อไปต้องไปไหน จึงกลายเป็นว่าทั้งสามคน คือคุณหญิง ท่านเจ้าคุณ และเย็นช่วยกันใส่บาตรจนเสร็จเรียบร้อย ทำให้คุณสาลี่ซึ่งฟังรายงานจากนังแอบแค้นใจมาก เพราะคุณสาลี่นึกรู้ว่าคุณหญิงมีแผนเตรียมที่จะยกเย็นให้ท่านเจ้าคุณอย่างแน่นอน
บุญมีแกล้งหลอกท่านเจ้าคุณอีกครั้งว่าเธอท้อง ในขณะที่เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย และท่านเจ้าคุณก็กำลังเป็นทุกข์กับเหตุการณ์คับขันของบ้านเมืองทำให้ท่านเจ้าคุณดีใจมาก แต่ท่านเจ้าคุณก็ดีใจได้ไม่นาน เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พวกบ่าวไพร่เรือนคุณสาลี่ก็วิ่งหน้าเริ่ดมาบอกคุณหญิงแย้มที่เรือนใหญ่ว่าบุญมีตกบันไดแท้งลูกแล้ว
บุญมีนั้นทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจกับการแกล้งแท้งลูกในคราวนี้มาก เพราะบุญมีถูกคุณสาลี่ผลักตกบันไดลงมาอย่างแรงเหมือนจงใจจะแกล้งกันทำให้บุญมีตกใจจนเป็นลมไปจริงๆ ด้วยความกลัว เมื่อได้สติฟื้นขึ้นมา บุญมีจึงถามสาลี่ตรงๆ
"คุณพี่ คุณพี่คิดจะฆ่าอิฉันหรือคะ"
"ถ้าฉันจะฆ่า หล่อนก็ตายไปแล้วน่ะซิ บันไดสูงแค่นั้นตกลงมาไม่ตายหรอก ขาแขนก็ไม่เห็นจะหัก แค่ตกใจจนเป็นลมไปเท่านั้น
บุญมีขยับตัวและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บก่อนจะคราง "อูย ยอกไปทั้งตัวเลย เข็ดจนตาย ต่อไปนี้อิฉันไม่ท้องอีกแล้ว"
ยายฟักจับเย็นขัดสีฉวีวรรณและพยายามสั่งสอนวิชาการบ้านการเรือนให้จนเย็นเริ่มคล่อง ทำให้คุณหญิงแย้มดีใจมาก ในขณะที่คุณสาลี่ก็รู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกันทำให้คุณสาลี่ยิ่งโกรธและเกลียดชังเย็นมากขึ้น เธอจึงใช้ให้นังแอบไปตามเย็นมาพบเธอที่เรือนเล็กแล้วลงมือตบตีและด่าว่าต่างๆ นานา ด้วยหวังจะให้เย็นทนไม่ได้และตอบโต้เธอ แต่เพราะเย็นนึกถึงคำสั่งสอนของยายฟักและคุณหญิงแย้ม เธอจึงนิ่งและอดทนอย่างที่สุด และก็เป็นโชคดีของเย็นที่คุณหญิงแย้มรู้เรื่องเข้าจึงสั่งให้บุ้งไปตามเย็นกลับมา
"บอกว่าข้าจะใช้มัน แล้วเอ็งก็ไม่ต้องไปตบตีกับบ่าวเขาอีกล่ะ รอยหวายคราวก่อนเพิ่งจะหายไม่ใช่หรือ"
คุณหญิงแย้มสั่งบุ้งด้วยสีหน้าเอือมระอาขณะที่บุ้งทำหน้าทะเล้นรับคำและรีบวิ่งไปยังเรือนคุณสาลี่ทันที คุณสาลี่จำใจต้องปล่อยเย็นกลับไปกับบุ้งด้วยความที่ยังเกรงๆ คุณหญิงแย้มอยู่ไม่ใช่น้อย

-
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา :
http://www.oknation.net/blog/lakorn/

ไม่มีความคิดเห็น: