เธอคือชีวิต ตอนที่ 3

โตมรกับอรอินท์ได้ข้อมูลเรื่องรุจคนรักของแขไขจากอีเมล์ที่ปกป้องส่งมาถึงเอื้อเฟื้อ แต่ทั้งคู่ยังไม่มีรายละเอียดมากพอ อรอินทุ์กับโตมรจึงไปหารวิชาที่โรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ เพราะมั่นใจว่า รวิชชาต้องรู้จักคนชื่อรุจแน่ ส่วนเอื้อเฟื้อก็ได้หลักที่ช่วยยืนยันว่า รวิชาท้องกับปกป้อง เธอจึงปริ้นท์จดหมายอีเมล์ของปกป้องออกมา
เช้าวันใหม่ เอื้อเฟื้อนำจดหมายของปกป้องที่บอกเรื่องลูกในท้องของรวิชาไปให้จิรายุดู จิรายุถึงกับน้ำตาซึมรำพึงว่า
"ปกป้องลูกพ่อ ทำไมอาภัพอย่างนี้ กำลังคิดจะมีครอบครัว กำลัง คิดจะตั้งต้นชีวิตใหม่แท้ๆ แล้วเรื่องรุจอะไรนี่" จิรายุซักต่อ
"ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า โตกับเล็กเขาอาสาจะไปหาอารวีให้ค่ะ เขาว่าจะไปบอกข่าวเรื่องเจอจดหมายนี่ คุณอารวีจะได้สบายใจ แล้วก็จะไปถามเรื่องรุจให้ด้วย" เอื้อเฟื้อว่า
จิรายุพยักหน้ารับรู้ ส่วนทางด้านโตมรกับอรอินทุ์ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะรวีพารวิชากลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดอยุธยาแล้ว ทั้งคู่จึงขอร้องให้พยาบาลช่วยค้นที่อยู่ของรวีให้ เพื่อจะได้ติดตามไปในวันพรุ่งนี้ และก่อนจะกลับบ้าน โตมรก็ชวนอรอินทุ์แวะไปเยี่ยมแขไขด้วยกัน
"วันนี้คุณย่าเป็นไงบ้างครับ" โตมรเอ่ยทักเพ็ญ
"ดีขึ้นทุกวัน บางครั้งเวลาเพ็ญพูดด้วย ก็จะมีปฏิกริยาตอบ กดมือเพ็ญอะไรแบบนี้น่ะค่ะ" เพ็ญรายงาน
โตมรยิ้มดีใจ อรอินทุ์ฟังแล้วก็พึมพำ "อืม แบตสองลูก ถ่ายเทพลังงานให้กันและกัน ระหว่างเรากับย่าแข เรากลายเป็นมนุษย์ ย่าแขแข็งแรงขึ้น"
"คุณหมอบอกว่า ถ้าการทำงานของอวัยวะในร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ อีกสักพัก จะให้ไปอยู่ห้องธรรมดาค่ะ" เพ็ญรายงานต่อ
โตมรดีใจเดินไปจับมือแขไข และรับรู้ว่าแขไขเริ่มขยับมือตอบสนอง
อรอินท์ชวนแขไขออกมามาหาอะไรดื่มที่ร้านกาแฟ และได้รับรู้เรื่องราวของโตมรว่า ทุกวันก่อนไปเรียนโตมรจะต้องแวะมาดูแลแขไข ทำให้อรนอินท์อึ้ง
และในระหว่างที่อรอินท์กำลังรับรู้เรื่องราวของโตมรกับแขไขอยู่นั้น โตมรก็กำลังมีความสุขอยู่กับการที่ได้ดูแล แต่สายตาที่เขามองเธอเหมือนสายตาของผู้ชายที่มองผู้หญิงฉันท์ชู้สาว อรอินท์เดินกลับมาพร้อมกับเพ็ญ แต่พอได้เห็นสายตาของโตมรที่มองแขไขเธอก็นึกสงสัย
อรอินทุ์กับโตมรกลับมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เอื้อเฟื้อฟัง และขออนุญาตไปตามหารวีกับรวิชาที่อยุธยาในวันพรุ่งนี้ แต่เอื้อเฟื้อยังลังเลเพราะเป็นห่วงทั้งคู่ อรอินทุ์รีบเข้ามาอ้อนและหลุดปากว่า
"เล็กต้องทำหน้าที่ให้เสร็จ จะได้กลับไปเป็นยมทูตเหมือนเดิม"
"หา อะไรนะ" เอื้อเฟื้อตกใจ โตมรรีบเข้ามากลบเกลื่อน
"เอ้อ เขาหมายถึงกลับบ้านแถวสถานทูตน่ะครับ คือเขาน่ะที่ไม่กลับบ้านทุกวันนี้เพราะห่วงย่าแข อยากจะตามรุจมาเจอย่าแข เขาจะได้หมดหน้าที่" เอื้อเฟื้อได้ฟังก็เห็นใจ
เช้าวันใหม่ โตมรกับอรอินท์เตรียมตัวจะไปอยุธยา แต่ก็โดนปัณรสีแกล้งให้ออกไปซื้ออาหารเช้าที่หน้าปากซอยทำให้ต้องเสียเวลา อรอินทุ์นึกฉุนจึงเอาคืนปัณรสีด้วยการหลอกผีทำให้ปัณรสีต้องโกยแน่บออกไป
แสงรู้ว่าอรอินท์กับโตมรจะไปสืบเรื่องรุจที่อยุธยา จึงมาเข้าฝันพัดชาให้ไปห้ามทั้งคู่ พัดชาตกใจตื่นรีบออกมาตามโตมรกับอรอินท์ และสั่งห้ามไม่ให้ไปอยุธยาตามที่แสงต้องการ แต่บังเอิญว่าจิรายุผ่านมาพอดี เขาจึงช่วยขอร้องพัดชาและอ้างว่า
"เด็กพวกนี้เอาจดหมายของปกป้องให้ผมดู เด็กในท้องน่าจะเป็นลูกของปกป้อง เราไม่ควรใจดำกับคนบ้านนั้น อย่าลืมสิครับ คนของเราเป็นคนขับรถคันนั้น เป็นคนทำให้ลูกสาวเขาบาดเจ็บ"
"เรื่องปกป้องกับหนูรวิชาน่ะแม่เข้าใจ แต่เรื่องรุจ พี่ใหญ่เขาสั่งแม่" พัดชาอ้างกลับ
แต่พอโดนจิรายุซักว่า ลุงใหญ่มาเกี่ยวอะไรด้วย เธอก็ไม่รู้จะเล่ายังไง เพราะเป็นเรื่องของความฝัน จึงต้องยอมจำใจปล่อยโตมรกับอรอินทุ์ไป จิรายุมองตามพัดชาพลางครุ่นคิด
จิรายุตามมาส่งโตมรกับอรอินทุ์ที่รถแล้วยื่นเงินให้จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมกำชับว่า ให้ซื้อกระเช้าไปเยี่ยมรวิชาแทนด้วย โตมรรับคำและให้สัญญาว่าถ้าได้เรื่องแล้วจะรีบกลับมารายงาน ส่วนพัดชาก็เข้าไปในห้องแล้วบอกกับรูปของหมอจิรัชย์ว่า เธอทำพยายามแล้วแต่ห้ามอรอินทุ์กับโตมรไม่ได้
"ถ้าพี่ใหญ่สามารถจัดการเด็กพวกนั้นได้ พี่ใหญ่จัดการเลยนะคะ" พัดชาว่า
"ได้ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง พวกมันไม่มีทางไปถึงจุดหมายได้หรอก" แสงปรากฏตัวขึ้นพร้อมส่งยิ้มเหี้ยม
โตมรแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันและหาเสบียงให้อรอินท์กินในรถ แต่แล้วอรอินท์ก็ทำเรื่องอีกจนได้ เพราะเธอดันไปส่งยิ้มให้พวกขี้เมาแถมยังพูดคุยด้วยอย่างสนิทสนม ทำให้คนพวกนั้นเข้าใจผิดคิดว่าอรอินทุ์ให้ท่าจึงจะเข้ามาลวนลาม เดือดร้อนถึงโตมรต้องออกมาปกป้องและประกาศว่า อรอินท์เป็นแฟนของเขา ทำให้พวกขี้เมาต้องล่าถอยไป
"จำไว้เลยนะ ผู้ชายไว้ใจไม่ได้สักคน ห้ามทำแบบนี้กับผู้ชายที่ไหนเด็ดขาด ถ้าไม่ระวังตัว เจอดีขึ้นมา เราไม่รู้ด้วยนะ"
โตมรหันมาดุ เมื่ออรอินทุ์เข้ามานั่งในรถ อรอินทุ์ยิ้มกว้าง โผเข้ากอดโตมรพร้อมเอ่ยว่า
"รักโตจัง" โตมรตกใจ ร้องโวยวาย อรอินท์รีบพูดต่อ
"เล็กรู้สึกดีจังที่โตสู้กับพวกนั้นเพื่อปกป้องเล็ก แถมยังบอกพวกนั้นว่าเป็นแฟนเล็กด้วย"
"เปล่าสักหน่อย" โตมรรีบปฏิเสธ แต่ก็นึกได้จึงรีบออกตัวว่า แค่ขู่ให้พวกขี้เมากลัวเท่านั้น
"หน้าแดงอีกแล้ว นั่นแน้ ชอบเขายังไม่ยอมรับ เล็กชอบโตเล็กยังบอกทุกคนเลยว่าเล็กชอบ นี่โตก็ชอบเล็ก ปากแข็งไม่เข้าเรื่อง" อรอินท์ล้อ ทำให้โตมรยิ่งเขิน จึงดุอรอินทุ์กลบเกลื่อน
"นี่มันโลกมนุษย์ ไม่ใช่โลกเทวดา ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก" อรอินทุ์หัวเราะขำ

โตมรขับรถพาอรอินท์ออกมาจากปั๊มน้ำมันได้สักพัก ก็เห็นมีรถมูลนิธิขับแซงไป และรถบนถนนเริ่มชะลอตัวเพราะมีอุบัติเหตุข้างหน้า อรอินทุ์เตือนให้โตมรระวัง เพราะรับรู้ได้ว่ามีคนตายและมียมทูตอยู่แถวนี้ เธอหันมาเปรยกับโตมรว่า หวังว่ายมทูตคงไม่ใช่แสง แต่พูดไม่ทันจบก็เหลือบไปเห็นแสงเดินออกมาจากกลุ่มไทยมุ่ง เธอร้องสั่งให้โตมรเร่งความเร็วรถเพื่อจะหนีแสง แต่แสงก็ใช้อำนาจให้ทำให้รถเบรกแตก เพื่อจะขัดขวางโตมรกับอรอินท์
รถของโตมรประสบอุบัติ โตมรถูกนำตัวไปโรงพักในข้อหาขับรถโดยประมาทและทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนอรอินท์หัวกระแทกอรอินท์หมดสติไปและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล อรอินท์ได้พบกับแสงในฝัน และแสงก็บอกกับเธอว่า
"ฉันขอร้องเธอดีๆ แล้ว อย่าตามหารุจ อย่าช่วยแขไข เธอไม่ยอมฟังเธอถึงต้องเจอแบบนี้"
"ฉันไม่กลัวหรอก คุณเป็นเทวดามีบารมีคุ้มครองก็จริง แต่ถ้าขืนคุณทำร้ายฉัน ทำร้ายทุกคนแบบนี้ สักวันบารมีคุณต้องเสื่อม คุณต้องตกอยู่ในอบายภูมิ" อรอินท์ขู่
"อบายภูมิ หมายถึงนรกใช่ไหม ฉันกำลังตกอยู่นี่ไง รักคนที่ไม่รักฉัน เธอคิดว่าฉันอยู่บนสวรรค์งั้นสิ"
"งั้นคุณก็เลิกสิ เลิกทำร้ายฉัน ปล่อยให้ฉันไปเจอรุจ ปล่อยให้รุจมาหาย่าแข ย่าแขจะได้หายป่วย"
"ฮะฮ่า ได้ อยากพบรุจนักใช่ไหม ฉันจะให้เธอพบ เอาเลยไปเลย เดินทางต่อไป ไปหารุจ แล้วเธอจะรู้ว่า ไม่มีประโยชน์ แขไขจะไม่มีวันหายป่วยเพราะการเดินทางครั้งนี้" แสงทิ้งปริศานาไว้
"หมายความว่าไง รุจจะไม่ช่วยย่าแขหรือ ทำไมล่ะคุณแสง ทำไม" อรอินท์ตะโกนถามแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา
โตมรโทรขอความช่วยเหลือจากเอื้อเฟื้อ และเมื่อจัดการเรื่องราวที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบตามาดูอรอินทุ์ที่โรงพยาบาล อรอินทุ์บอกกับชายหนุ่มว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของแสง และแสงก็ยังพูดจาแปลกๆ กับเธออีกด้วย แต่อรอินทุ์ไม่เข้าใจที่แสงพูดจึงไม่เล่าให้ โตมรฟัง
"รถคงขับไม่ได้ ต้องทิ้งไว้ให้ช่างแถวนี้มาซ่อมก่อน นี่เราเข้าจังหวัดอยุธยาแล้วนะ อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านอารวี" โตมรเอ่ยขึ้นหลังจากไปเห็นสภาพมารถมาแล้ว
"ถ้าคุณแสงยอมแพ้ ยอมให้เราเจอรุจจริงๆ เขาคงไม่ทำอะไรเราแล้วล่ะ อย่ายอมแพ้นะโต รุจต้องมีความหมายมากแน่ๆ ไม่งั้นทั้งคุณแสง ทั้งย่าพัด ทุกคนจะทำท่าแปลกๆ ทำไม" อรอินท์ย้ำ
โตมรถอนใจ มองไปรอบๆ ตัดสินใจแล้วเอ่ยว่า "นี่ค่ำแล้ว ไม่งั้นต้องหาที่พักแถวนี้ ป่านนี้รถคงหมดไปแล้วล่ะ"

พัดชาออกมายืนมองรูปหมอจิรัชย์ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรักอย่างเปี่ยมล้น แล้วเธอก็เอ่ยว่า
"พัดดีใจนะคะ ที่พี่ใหญ่มาหาพัด พัดไม่กลัวสักนิด พี่ใหญ่มาหาพัดอีกนะคะ"
และอีกมุมหนึ่งปัณรสีกับจิรายุก็กำลังจะเดินเข้าห้อง แต่ปัณรสีเหลือบมาเห็นพัดชาที่ยืนพูดอยู่กับรูปของหมอจิรัชย์จึงสะกิดให้จิรายุดู และได้ยินพัดชาคุยต่อว่า
"หลายสิบปีที่ผ่านมา พัดเฝ้าคอยอยากพบพี่ใหญ่ ในฝันก็ยังดีไม่นึกเลยว่า จะมาสมหวังเอาตอนนี้ พัดคิดถึงพี่ใหญ่เสมอนะคะมาหาพัดอีกนะคะ"
"คุณได้ยินหรือเปล่า คุยเป็นเรื่องเป็นราวเลย" ปัณรสีกระซิบบอกสามี
จิรายุไม่ชอบใจที่แม่ตนแอบชอบสามีพี่สาว จึงเดินสะบัดเข้าห้องไป ปัณรสีรีบตามแล้วเม้าท์ต่อ
"สายตาที่คุณแม่มองรูปลุงใหญ่ สายตาแบบนั้นมันไม่เหมือน น้องภรรยามองสามีพี่สาวเลยนะ มันเหมือนกับคู่รักกัน"
"แม่คิดถึงคุณลุงใหญ่ จนถึงป่านนี้แล้ว คุณแม่ยังจะ เฮ้อ" จิรายุพูดค้างด้วยความโมโห
พัดชายังคงยืนมองรูปอยู่ตรงนั้น เธอหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อครั้งที่ไปตามหมอจิรัชย์มารักษาอาการป่วยของพ่อ และเกิดรักแรกพบขึ้น แล้วเธอก็อาสามาช่วยทำงานบ้านให้จิรัชย์ เพราะหวังให้เขาเห็นความดีและมีไมตรีตอบ แต่จิรัชย์กลับมองข้ามแถมยังไปรักแขไขพี่สาวของเธออีกที่มีคนรักอยู่แล้ว ทำให้พัดชาต้องเจ็บช้ำ
"พี่ใหญ่ดูแลพี่แขมาสามสิบปี แต่พี่แขก็ยังรักรุจ พัดแต่งงานไปหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังรักคุณ ความรักมีแต่เรื่องเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง" พัดชาน้ำตารินมองรูปของจิรัชย์ตรงหน้า
โตมาพาอรอินทุ์มาพักที่โรงแรมและจำต้องอยู่ห้องเดียวกัน เพราะไม่มีห้องว่าง โตมรเห็นอรอินทุ์เครียดเรื่องแสงจึงแกล้งแหย่ ด้วยการแอบไปซ่อนตัวให้อรอินท์เข้าใจผิดคิดว่า เขาถูกแสงจับตัวไป อรอินทุ์เป็นห่วงโตมรจึงออกตามหา แต่พอรู้ว่าโดนแกล้งเธอก็โวยวายใส่เขา แล้วเดินหนีเข้าห้อง
"ก็วันนี้เราเหนื่อยมากแล้ว อยากให้คลายเครียดบ้าง ก็เล็กบอกเองไม่ใช่หรือว่า คุณแสงยอมรามือไปแล้ว" โตมรตามมาง้อ
"โตไม่เคยเจอคุณแสง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาร้ายแค่ไหน ไม่รู้หรือว่าเขาทำอะไรเราสองคนได้ทุกเมื่อ โตหลอกให้เล็กกลัว หลอกให้เล็กห่วง ทำแบบนี้ได้ยังไง หา นี่แน่ะ นี่ มันน่าแค้น" อรอินทุ์ตีโตมรเป็นชุด
"โฮ้ย เจ็บนะ เจ็บๆ นี่ตีนักใช่ไหมจับไว้เลย"
โตมรจับมืออรอินทุ์แล้วกดลงไปบนเตียง ตั้งใจจะปราบให้นิ่งๆ อรอินท์ร้องเสียงหลงสั่งให้โตมรลุกออกไป โตมรรู้ตัวรีบลุกขึ้นพร้อมกับขอโทษ อรอินท์แกล้งทำงอนพร้อมตัดพ้อ
"ไม่ต้องมาพูดเลย คิดจะหนีเล็ก เล็กน่าเบื่อใช่ไหม"
"เล็กไม่ได้น่าเบื่อสักหน่อย วิธีที่ตัวเล็กกิน วิธีที่ตัวเล็กชื่นชมดอกไม้ ชื่นชมสิ่งรอบข้าง มันทำให้มนุษย์เบื่อโลกอย่างเราได้คิดว่า จะมัวอมทุกข์อยู่ทำไม ดอกไม้ยังสวย อาหารยังอร่อย ดีจะตายที่ยังมีชีวิต" โตมรว่า
อรอินทุ์ดีใจโผเข้ากอดโตมรแน่น โตมรร้องโวยวายสั่งให้อรอินท์เอามือออก เพราะกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทำฟอร์มลุกเดินหนีบอกกับอรอินท์ว่า
"เราไปนอนข้างนอกนะ ตั้งแต่อยู่กับเธอ มีเรื่องวุ่นทุกวัน ห่างๆ กันบ้างก็ดีแล้วแหล่ะ" อรอินท์มองตามอย่างงงๆ

วันต่อมา โตมรกับอรอินทุ์ก็นำกระเช้าไปเยี่ยมรวิชาที่บ้านพักของรวีพร้อมออกตัวว่า
"พี่เอื้อติดงานน่ะครับ เราเลยเป็นตัวแทนของพี่เอื้อมาส่งข่าว คุณอาน่าจะบอกเรา เรื่องจะย้ายพี่รวิชากลับมาที่โรงพยาบาลในจังหวัด"
"บอกไป เพื่อให้ทางบ้านของคุณมาดูถูกอีกน่ะหรือ" รวียังเคืองไม่หาย
โตมรจึงส่งจดหมายที่ปกป้องบอกเรื่องรวิชากับลูกให้รวีอ่าน รวีมีสีหน้าดีขึ้นจึงถามต่อว่า
"แล้วพ่อกับแม่เลี้ยงพวกเธอ จะหาว่าเป็นจดหมายปลอมอีกไหมล่ะ"
"อาจิรายุพ่อของพี่ป้องรับรู้แล้วยังฝากให้ผมเอากระเช้านี่มาเยี่ยมพี่รวิชาด้วย" โตมรรีบบอก
รวีมองกระเช้าของเยี่ยมแล้วก็ใจอ่อน จึงยอมพาโตมรกับอรอินทุ์ไปเยี่ยมรวิชาที่โรงพยาบาล
"รวิชาออกจากห้องไอซียูแล้ว แต่ยังพูดไม่ได้ คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง"
รวีมองลูกสาวที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ในห้องไอซียู อรอินทุ์รีบถามโตมร
"พูดไม่ได้แล้วจะบอกเรื่องรุจกับเราได้ยังไง"
โตมรหันมาดุอรอินทุ์ว่า เสียมารยาท รวีได้ยินเข้าก็เอ่ยว่า
"ถ้าเธอหมายถึงคนชื่อรุจในจดหมายของปกป้อง ไม่ต้องรอรวิชาหรอก ถามฉันก็ได้"
โตมรกับอรอินท์ทำตาโตไม่คิดว่ารวีจะรู้เรื่องนี้ด้วย
รวีพาโตมรกับอรอินท์กลับมาที่บ้านเพื่อดูรูปครอบครัวที่ใส่อยู่ในอัลบั้ม แล้วดึงภาพของรุจกับรุจาสองพี่น้องสมัยยังหนุ่มสาวออกมาให้ดูพลางอธิบายว่า
"คนชื่อรุจ เป็นปู่ของรวิชา เป็นลุงของผม นี่คือ ลุงรุจ สมัยหนุ่ม และนี่คือ รุจา แม่ของผม ท่านเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแม่ผมเอง"
โตมรคิดปะติดปะต่อแล้วเอ่ยว่า ปกป้องคงรู้เรื่องนี้ตอนเดินทางมาที่อยุธยา
"ใช่ เรื่องประหลาดในความหมายของปกป้องก็คือ โลกมันกลม ปู่รุจของรวิชา และย่าแขของปกป้อง เคยรักกัน แล้ววันหนึ่งหลานของทั้งสองครอบครัวคือรวิชาและปกป้อง ก็มารักกันเอง"
โตมรพยักหน้ารับบอกว่า เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ด้วย
"เราอยากพบปู่รุจค่ะ คุณอาพาเราสองคนไปพบปู่รุจได้ไหมคะ"
อรอินทุ์รีบเข้าประเด็น แล้วอ้างถึงแขไขที่นอนเป็นเจ้าหญิงนินทรามากว่าสองปีแล้ว
"ท่านพยายามบอกพวกเราว่า ท่านอยากพบปู่รุจก่อนตาย" อรอินทุ์ว่า
รวีแปลกใจแต่ก็ยอมพาทั้งคู่ไปวัดที่เก็บอัฐิของรุจไว้
อรอินทุ์กับโตมรยืนตะลึงเมื่อเห็นเจดีย์ที่เก็บอัฐิของรุจ ทั้งคู่ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่ง
"รุจตายไปแล้ว" อรอินทุ์พึมพำ
ส่วนโตมรก็ถามเสียงแผ่ว "ท่านตายไปแล้ว แล้วเราจะพาตัวท่านไปหาย่าแขได้ยังไง"
รวีจึงบอกกับทั้งคู่ว่า รุจตายเมื่อตอนอายุยี่สิบกว่า มาถึงวันนี้ก็เกือบสี่สิบปีแล้ว
"นี่มันอะไรกัน ท่านตายไปตั้งนานแล้ว ย่าแขจะสั่งให้ตัวเล็กตามหารุจทำไม" อรอินท์งง
"น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะย่าแขของคุณป่วยเมื่อสองปีที่แล้ว ขณะนั้น ย่าแขคงรู้แล้วว่าปู่รุจตาย เพราะตอนที่ปู่รุจตาย ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครๆ ก็รู้" รวีออกความเห็น
"นี่มันอะไรกัน เป็นไปไม่ได้" โตมรหมดแรง
พัดชามาหาแขไขที่โรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าแขไขเป็นคนสั่งให้อรอินท์กับโตมรไปตามหารุจที่อยุธยา เธอตำหนิการกระทำของพี่สาว เพราะเจ็บแค้นแทนจิรัชย์ชายที่เธอรัก แล้วภาพในอดีตเมื่อครั้งที่จิรัชย์มาขอแขไขจากพ่อก็ตามมาตอกย้ำให้พัดชายิ่งเจ็บ แต่เพราะความรักที่มีต่อเขา พัดชาจึงต้องอดทน แล้วเข้ามาขอร้องให้แขไขยอมตกลงแต่งงานกับจิรัชย์เพราะอยากเห็นชายที่รักมีความสุข
"ชะตากรรมของมนุษย์เป็นเรื่องเข้าใจยากจริงๆ เวลาเกือบสี่สิบแล้ว ทุกอย่างเหมือนไม่เคยเปลี่ยนแปลง รุจยังอยู่ในชีวิตของเราสามคน ไม่ว่าจะเป็นเวลานี้หรือเวลานั้น เด็กพวกนั้นกำลังตามหารุจ ฮึ เรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้ พวกนั้นคิดไปเองว่าถ้าพี่แขเจอรุจ แล้วจะหายป่วย เรื่องบ้าทั้งนั้น เด็กพวกนั้นจะต้องผิดหวังเมื่อเจอรุจ"
พัดชาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาที่เธอมองพี่สาวก็มีทั้งรักและเกลียดระคนกัน
อรอินทุ์กับโตมรยังช็อคไม่หายกับสิ่งที่รับรู้ ทั้งคู่นั่งทบทวนกันอีกครั้ง แล้วอรอินทุ์ก็ยืนยันกับโตมรว่า แขไขสั่งให้เธอช่วยตามหาคนชื่อรุจจริงๆ
"ย่าแขบอกเล็กให้ตามหารุจ คำว่าตามหารุจมันมีความหมายอย่างอื่นหรือเปล่า" โตมรมองหน้าอรอินทุ์
"นี่หมายความว่า เล็กตีความผิดงั้นหรือท่านไม่ได้บอกให้เล็กตามหารุจมาให้ท่าน คำว่าตามหารุจมีความหมายอย่างอื่น ทั้งหมดที่เราทำมา มันผิดหมดเลยหรือ" อรอินทุ์ร้อง
โตมรทำท่ากลุ้ม แสงที่ติดตามทั้งคู่มายืนหัวเราะสะใจแล้วเอ่ยว่า
"ฮะฮะฮ่า ก็บอกแล้ว ว่าเธอมาผิดทาง เธอจะไม่มีวันถึงเป้าหมายหรอก ฮะฮะฮ่า"
เช่นเดียวกับพัดชาที่กำลังยืนหัวเราะอยู่หน้าเตียงแขไข เพราะมั่นใจว่า โตมรกับอรอินทุ์ไม่มีวันได้พบรุจแน่
โตมรกับอรอินทุ์เดินเศร้าๆ เข้ามาในบ้าน เอื้อเฟื้อที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่หันมาทัก ปัณรสีได้โอกาสรีบตำหนิ เพราะเข้าใจว่าทั้งคู่ไปเที่ยวมา จิรายุมองปัณรสีแล้วถามข่าวรวิชา
"พี่รวิชา หมอให้ออกจากไอซียู แต่คงต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนกว่าจะกลับมาปรกติ คุณอารวีฝากขอบคุณคุณอาจิรายุด้วยครับสำหรับความห่วงใย" โตมรตอบ
จิรายุพยักหน้ารับรู้ พัดชาจึงถามต่อเรื่องคนชื่อรุจที่ปกป้องเอ่ยถึง อรอินทุ์เตรียมจะเล่า แต่โตมรดึงไว้แล้วชิงตอบเสียเอง
"เรื่องรุจคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราสองคนเข้าใจผิดไปเอง เราต้องกราบขอโทษย่าพัดด้วยนะครับที่เอาเรื่องไร้สาระมาพูดในบ้านนี้"
โตมรหันไปสั่งอรอินทุ์ "กราบคุณย่าสิตัวเล็ก"
อรอินทุ์งง แต่ก็ยกมือไหว้พร้อมโตมร พัดชายิ้มพอใจ สั่งให้ทั้งคู่เลิกยุ่งเรื่องรุจ
"นี่มันยังไงกันน่ะ" เอื้อเฟื้อแปลกใจรีบลุกตามโตมรกับอรอินท์ไปที่บ้านท้ายสวน โตมรกับอรอินทุ์เล่าเรื่องรุจให้เอื้อฟังพร้อมปรับทุกข์ว่า อรอินทุ์อาจจะเข้าใจผิดไปเอง เพราะสิ่งที่รับรู้มาผิดพลาดทั้งหมด
"ตอนนี้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่ย่าแขบอกตัวเล็กคือเรื่องอะไร ย่าแขข้องใจอะไรเกี่ยวกับปู่รุจ ในเมื่อท่านตายไปเกือบสี่สิบปีแล้ว" อรอินทุ์เศร้า เอื้อเฟื้อพยักหน้าเข้าใจ
"ความข้องใจในอดีตทำให้ผู้หญิงชราคนหนึ่งไม่สามารถเดินทางไปสู่ปรโลกได้ สิ่งที่ทำได้คือหายใจรวยริน นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ได้ แขไขเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร อยู่ระหว่างการมีชีวิตและความตาย อยู่แบบนี้ทำไมกัน"
แสงเข้ามาตอกย้ำแขไข แขไขทำอะไรไม่ได้จึงร้องไห้ออกมา เพ็ญที่นั่งอยู่ข้างเตียงแปลกใจรีบลุกขึ้นมาดู แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้เห็นและได้ยินแสงที่กำลังบอกกับแขไขว่า
"การยึดติดกับอดีตเป็นความทุกข์มหันต์ ทำไมล่ะแขไข รุจตายไปนานแล้ว เมื่อไหร่คุณจะเลิกสงสัยเรื่องของรุจ แล้วยอมทิ้งร่างกายออกมาอยู่กับผม ผมรอคุณอยู่ตรงนี้ ทิ้งร่างกายซะ ออกมาอยู่กับผมเถอะนะ"
แสงจับที่แขนของแขไข แขไขปล่อยพลังงานให้ไฟช็อตแสงด้วยความโกรธ
"โอ๊ย ฮึ คุณพยายามใช้พลังงานที่เหลือน้อยนิด ต่อต้านผม พยายามสื่อสารกับอรอินทุ์ พยายามดิ้นรนทุกทาง เพื่อให้ได้รู้เรื่องของรุจ ก็เอาสิ ผมจะปล่อยให้คุณดิ้นพราดๆ อยู่อย่างนี้ ทั้งคุณ อรอินทุ์และโตมร จะต้องเจ็บปวด ถ้ายังขืนวุ่นวายกับเรื่องของรุจต่อไป" แสงประกาศเสียงกร้าว
อรอินทุ์ยืนกลุ้มคิดไปมาพลางถอนใจ โตมรที่เดินนำอาหารมาให้เห็นเข้าก็แกล้งแซว แต่อรอินทุ์ไม่เล่นด้วย เธอหันมาปรับทุกข์กับโตมรว่า
"เล็กเป็นยมทูต ที่ถูกพลังของย่าแขชุบชีวิตขึ้นมาเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่เล็กไม่รู้ว่าย่าแขจะให้เล็กทำอะไร เพราะฉะนั้นเล็กก็ยังกลับไปเป็นยมทูตไม่ได้เป็นโต โตไม่ทุกข์หรือ"
โตมรถอนใจตอบว่า "ตอนนี้มีทางให้เลือกอยู่สองทาง ทางที่หนึ่ง ลืมเรื่องนี้ซะ เล็กชอบการเป็นมนุษย์นี่นา ก็ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ต่อไป ส่วนทางที่สองก็กลับไปหาย่าแข ไปถามให้รู้แน่ว่าย่าแขหมายถึงอะไร นั่นคือต้องกลับไปช็อตไฟกับท่านอีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่เสี่ยงมาก"
"เพราะทุกครั้งที่ช็อตไฟกัน ตัวเล็กจะอ่อนแอลง ดวงจิตจะสูญสลายเมื่อไหร่ก็ได้" อรอินทุ์รีบต่อให้
โตมรพยักหน้า "ใช่ เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีอื่นและถ้ายังคิดวิธีอื่นไม่ออกก็หยุด ทุกอย่างไว้แค่นี้ก่อนดีไหมตัวเล็ก" โตมรว่า อรอินทุ์หยุดคิดแล้วตอบโตมร
"ชีวิตคือการเสี่ยงนะโต เราต้องเสี่ยงอยู่เสมอ"
อรอินทุ์สีหน้าหมายมาด แล้วชวนโตมรไปหาแขไขที่โรงพยาบาลเพื่อสื่อสารกันอีกครั้ง
อรอินทุ์จับที่มือแขไข แขไขช็อตไฟใส่ทันที อรอินทุ์ชะงักนิ่งสั่นน้อยๆ ไฟฟ้าวิ่งจากแขไขเข้าใส่อรอินทุ์เป็นสาย โตมรได้แต่ตะโกนเรียก แล้วแขไขก็ส่งผ่านภาพในอดีตให้อรอินทุ์ได้รู้ว่า หลังจากที่เธอแต่งงานกับหมอจิรัชย์แล้ว รุจาน้องสาวของรุจก็ได้ไปประกันตัวเขาออกมา แล้วพากลับไปอยู่ที่บ้านเรือนไทยริมน้ำ
8 ปีผ่านไปรุจยังไม่อาจตัดใจลืมแขไขได้ รุจาจึงทำได้เพียงคอยปลอบใจพี่ชาย แล้ววันหนึ่งรุจาก็ชวนรุจไปร่วมงานโกนผมไฟเด็กชายทอง ลูกชายของกำนันเงิน จึงทำให้รุจได้พบกับแขไขที่มาร่วมงานนี้ด้วย เพราะกำนันทองเคยมีบุญคุณกับพ่อของเธอ และสั่งเสียเธอไว้ก่อนตายว่า ให้ช่วยดูแลครอบครัวของกำนันเงินแทนด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: